วิธีเติมเต็มความความชุ่มชื่นให้แก่ผิว สำหรับผู้หญิงแต่ละช่วงวัย

สาวๆแต่ละวัยมีสภาพผิวและปัญหากวนใจไม่เหมือนกัน ตั้งแต่เรื่องสิวไปจนถึงผิวหย่อนคล้อย แต่สิ่งที่ผิวควรได้รับการใส่ใจดูแลเป็นพิเศษและควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอนั่นคือ การเติมเต็มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว เพราะหากผิวขาดความชุ่มชื่นไปจะส่งผลให้เกิดปัญหาที่ไม่จบสิ้น ลองมาดูกันว่าผิวพรรณแต่ละช่วงอายุควรดูแลอย่างไรเพื่อให้เปล่งปลั่งสดใสกว่าคนในวัยเดียวกัน

ความชุ่มชื่นสำคัญกับผิวอย่างไร

ผิวขาดความชุ่มชื่น สามารถเกิดได้กับสภาพผิวหน้าทุกแบบ เช่น คนที่มีผิวมัน หรือผิวผสม หน้ามีความมันอยู่แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแห้งตึงอยู่ใต้ผิวหนังตลอดเวลา และยังไปกระตุ้นการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดรูขุมขนอุดตันได้อีกด้วย รวมถึงปัญหาผิวแห้ง หยาบกร้าน หมองคล้ำ ทำให้ผิวง่ายต่อการระคายเคือง และเป็นสัญญาณของผิวอ่อนแอ

สาววัย 20

วัย 20+ เป็นช่วงเวลาทองของผิว ที่เปลี่ยนจากสาวใสวัยทีนมาเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัว แม้จะมีปัญหาสิวช่วงวัยรุ่นตามติด แต่ด้วยสภาพผิวที่แข็งแรง สุขภาพดี และสมบูรณ์ที่สุด ผิวจึงกระชับ ไม่มีริ้วรอย มีน้ำหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติเต็มเปี่ยม เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินยืดหยุ่นกว่าช่วงวัยอื่น จึงไม่ค่อยพบเจอปัญหาผิวมากนัก แม้ไม่ได้รับการดูแลป้องกันเต็มที่ การนอนดึก เผชิญกับแสงแดดที่แรง ไม่ทำให้ผิวเสียหายในตอนนี้แต่อาจส่งผลในภายหน้าได้ จึงควรระวังเรื่องนี้สักหน่อย สำหรับสาวๆคนไหนที่ยังคงเจอกับปัญหาสิวรุมเร้า ควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เท่าที่จำเป็น ส่วนสภาพผิวอื่นเลือกใช้ตามความเหมาะสม

สาววัย 30

ริ้วรอยจางๆเริ่มทยอยมา แต่ถ้าใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยงทั้งเครียดกับงาน นอนน้อย ปาร์ตี้หนัก ตากแดดมากไป ผิวหน้าจะเกิดร่องลึกตรงบริเวณที่แสดงอารมณ์ และพื้นที่รอบๆดวงตาโดยไม่รู้ตัว สาวคนไหนที่เริ่มบำรุงมาก่อนหน้านี้ค่อยสบายใจได้ ส่วนคนที่ละเลยไม่เคยใส่ใจบำรุงผิวมาก่อน แม้จะช้าไปนิดแต่ก็ยังไม่สายเกินแก้ แค่เลือกหาผลิตภัณฑ์บำรุงฟื้นฟูผิวที่คอยเติมความชุ่มชื่น กักเก็บน้ำไว้ในเซลล์ผิวได้นานๆ เพราะผิวที่มีความชุ่มชื่นมักจะอิ่มเอิบเปล่งปลั่ง ริ้วรอยน้อยลง เลือกที่มีสารบำรุงพวก Hyaluronic acid  ทำหน้าที่เสมือนแหล่งกักเก็บน้ำแก่เซลล์ ปกป้องโครงสร้างของเซลล์ผิว ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น

การสครับผิวก็เป็นอีกตัวช่วยที่สำคัญ แต่ควรเลือกสครับเนื้อละเอียด ไม่ระคายเคืองผิว หรือใช้แล้วก่อให้เกิดอาการแสบแดง การสครับจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่อุดตันรูขุมขนให้หลุดออก ผิวจะดูสดใสขึ้น อย่าลืมเติมความชุ่มชื่นอีกสเต็ปด้วยการมาส์กหน้าเพิ่มพลังให้แก่ผิวแบบเร่งด่วน ควรสครับหรือมาส์กหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน ถ้าผิวแห้งเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนสาวผิวมันสามารถทำได้ 2 ครั้ง แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไปเพราะผิวอาจสูญเสียความชุ่มชื่นได้เช่นกัน

สาววัย 40

ปัญหาหนักใจของสาววัยนี้คือ ริ้วรอย และผิวที่ค่อยๆแห้งกร้าน สิ่งที่สาวๆเคยละเลยไม่สนใจดูแลผิวมาตั้งแต่ต้นอายุ 20 จะปรากฏผลตอนนี้นี่เอง นอกจากนี้ยังมีความหย่อนคล้อย กระ ฝ้า จุดด่างดำ ตามมาเป็นขบวน กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเริ่มชะลอตัว การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยให้ผิวกระชับยืดหยุ่นก็ช้าลงด้วย ผิวจึงไม่เรียบเต่งตึง เปล่งปลั่งเหมือนเดิมอีกต่อไป ผิวจึงต้องการความชุ่มชื่นมากกว่าเดิม ควรบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่มีสาร Antioxidant เป็นส่วนผสม ต้องบำรุงอย่างเข้มข้น ปกป้อง DNA ของเซลล์ผิวจากสภาวะแวดล้อมแย่ๆ และเติมเต็มความชุ่มชื่นแก่ผิวด้วยผลิตภัณฑ์ Anti-Aging  แนะนำให้ใช้คลีนเซอร์ชนิดครีมที่คงความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ดี และหากการทาครีมจากภายนอกหยุดยั้งความหย่อนคล้อยไม่ได้ ถึงตรงนี้คงต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วย เช่น การฉีด Filler, การยกกระชับใบหน้า

การเติมเต็มความชุ่มชื่นเป็นการบำรุงผิวที่ทำได้ง่าย และเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดควบคู่เช่นกัน เพราะผิวที่ได้รับทั้งการบำรุงและปกป้อง เมื่ออายุเพิ่มขึ้นย่อมมีสภาพผิวที่ดีกว่าผิวที่ไม่เคยได้รับการดูแลเลย เมื่อถึงตอนนั้นคงเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นฟูให้กลับมาดูเปล่งปลั่งสมวัยได้อีกครั้ง

Leave a Reply