การมีประจำเดือนเป็นช่วงเวลาที่สาวๆต้องรับมือกับอารมณ์แปรปรวน ความยากอาหารที่มากขึ้น อาการบวมน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ สาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่เกิดขึ้น แต่สำหรับผิวพรรณนั้นดูเหมือนว่าจะได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะพอสมควร เช่น สิวขึ้นช่วงที่มีประจำเดือน หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดเป็นรอยสิวที่สร้างความกังวลไม่น้อย มาดูกันว่ามีวิธีใดบ้างในการรับมือกับปัญหาผิวที่ต้องเจอในช่วงเวลาเช่นนี้

1.ผิวมันเยิ้มมากขึ้น

ช่วง 1 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนจะอยู่ในระดับสูงสุด ในขณะที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนกลับต่ำลง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผิวถึงได้ดูแย่ ช่วงนี้ต่อมไขมันจะทำงานหนักขึ้น จึงขับน้ำมันออกมามากจนหน้ามันเยิ้มอย่างเห็นได้ชัด และผมก็มีความมันกว่าปกติ จนอาจเกิดการอุดตันของรูขุมขน เกิดเป็นสิวได้ง่าย

วิธีรับมือ : ใส่ใจความสะอาดมากขึ้นสักนิด

หัวใจสำคัญของการดูแลผิวช่วงมีประจำเดือนคือ การรักษาความสะอาดของผิวหน้า และเน้นการบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น เริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ไม่จำเป็นต้องล้างหน้าบ่อย ถ้าทนไม่ไหวจริงๆอาจฉีดสเปรย์น้ำแร่ระหว่างวัน เมื่อรู้สึกว่าผิวเหนอะหนะ เลี่ยงการซับหน้าบ่อยเกินไป เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามาก และใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื่น ป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิว เป็นการรักษาสมดุลไม่ให้หน้ามันหรือแห้งจนเกินไป  ควรงดอาหารมัน ทอด ขนมขบเคี้ยว ของหวานต่างๆที่จะยิ่งทำให้ผิวแย่ลงกว่าเดิม

2.ผิวพังเป็นสิว เนื่องจากรูขุมขนกว้างขึ้น

นอกจากผิวมันขึ้น รูขุมขนยังกว้างขึ้นอีกด้วย เสี่ยงต่อการอุดตันและเกิดสิวได้ง่าย สิ่งที่ควรระวังคือเรื่องของการติดเชื้อจนกลายเป็นสิวอักเสบ เกิดเป็นรอยแผลเป็น หลุมสิวที่รักษาค่อนข้างยาก

วิธีรับมือ : อย่าปล่อยให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนเด็ดขาด

เคราตินที่มากเกินไป เกิดจากการพอกหนาของผิวหนังกำพร้าชั้นนอกสุด เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกมา เมื่อไม่มีการอุดตันจะทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น

3.ผิวหน้าไม่สดใส หมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด

ฮอร์โมนและความมันบนใบหน้า ส่งผลให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส ไร้ชีวิตชีวา และผิวในช่วงนี้ค่อนข้างไวต่อแสงแดด อาจส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาวอย่างเช่น ฝ้า กระ และจุดด่างดำ

วิธีรับมือ : ทาครีมกันแดด

ปกป้องผิวจากแสงแดดแม้แต่ในที่ร่ม โดยเฉพาะสาวๆที่ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เช่นกัน ครีมกันแดดต้องมีประสิทธิภาพที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA, UVB และ Blue Light ส่วนใครที่มีปัญหาผิวมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ควรเลือกครีมกันแดดเนื้อบางเบา เช่น เนื้อมูส เนื้อโลชั่น เพื่อป้องกันการอุดตันของผิว หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดเจิดจ้า ลองใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซีที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงก็ช่วยได้เช่นกัน และควรดื่มน้ำให้เยอะกว่าเดิมสักหน่อย ไม่ต้องดื่มครั้งละมากๆ แต่จิบให้บ่อยขึ้น เป็นการช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย

 

4.ผิวระคายเคืองง่าย ไวต่อสิ่งกระตุ้น

สังเกตได้ว่าช่วงนี้ผิวจะมีความบอบบางมากเป็นพิเศษ มีโอกาสที่จะระคายเคือง ผิวหนังแห้ง นำไปสู่การแพ้ หรือเกิดผื่นแดงได้ง่าย

วิธีรับมือ : อ่อนโยนกับผิวสักนิด

คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสำหรับการสครับผิว ที่จะยิ่งทำให้ผิวแห้งกว่าเดิม สำหรับสาวๆที่มีผิวมันจากการขาดน้ำ จะส่งผลให้ผิวผลิตน้ำมันขึ้นมาชดเชย และไม่ควรเปลี่ยนครีมบำรุงผิวหรือเครื่องสำอางในช่วงนี้ อดใจไว้ก่อนรอให้สภาพผิวดีขึ้นแล้วค่อยทดลองของใหม่

การดูแลผิวช่วงมีประจำเดือนไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าจะรับมือ แค่ทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น สร้างความสมดุลในร่างกาย พยายามเลี่ยงในสิ่งที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง จะว่าไปก็เป็นช่วงที่เหมาะแก่การพักผ่อนและหันมาใส่ใจตัวเองอย่างจริงจัง เพราะการมีผิวที่สวยเริ่มต้นจากการมีวินัยและทำได้ในทุกๆวัน