หน้าเป็นกระ รักษายังไง

ปัญหาผิวที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วนอีกปัญหา คือ กระ เพราะหากผิวหน้าเปนกระ ส่งผลให้ใบหน้าไม่สดใส ไร้สง่าราศี ต้องแต่งหน้าเข้มจัด เพื่อปกปิดปัญหาผิวที่มีกระได้ แต่การเลือกปิดบังด้วยเครื่องสำอางหรือเมคอัพ ไม่ใช่วิธีที่จะช่วยให้ปัญหากระหายไปอย่างถาวร

สาเหตุของการเกิดกระบนใบหน้า

การเกิดกระบนผิวหน้ามีหลายสาเหตุ ดังนี้

1.ขาดการปกป้องผิวที่ดีพอเมื่อออกแสงแดด

เมืองไทยถือว่ามีสภาพอากาศค่อนข้างร้อน การทาครีมกันแดดที่ไม่สามารถปกป้องผิวได้ดีพอ จะนำไปสู่การเกิดผิวหนังประเภทกระได้ง่าย โดยจะเริ่มจากจุดดำเล็กๆ และนำไปสู่จุดกระขนาดที่กว้างขึ้น ไม่สามารถรักษาด้วยการทาครีมได้ นอกจากการเลเซอร์ผิวบริเวณที่เป็นกระ ซึ่งการเลเซอร์มีโอกาสส่งผลต่อผิวหน้งชั้นบนได้ ทำให้มีปัญหาในระหว่างที่ผิวเผชิญแสงแดดที่ร้อนจัด

2.การเกิดสิวบางชนิด

สิวบางชนิด เมื่อหายจากการอักเสบแล้ว มักทิ้งร่อยรอยจุดด่างดำไว้ ขนกลายเป็นจุดที่ไม่มีวันหายขาด แล้วกลายเป็นกระในที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาจากการแกะสิวด้วยตัวเอง มือไม่สะอาดขณะบีบสิว

3.การใช้ยาต้านฮอร์โมนบางชนิด

ส่วนใหญ่การรับประทานยาต้านฮอร์โมนบางชนิด มักเกิดขึ้นกับผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ บางบางชนิดทำให้เกิดกระขึ้นบนใบหน้ามากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เช่น ยาคุมกำเนิด หากรับประทานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มีโอกาสเกิดปัญหาผิวกระได้มากกว่าคนที่ไม่ใช้ยาประเภทนี้

4.ละเลยการล้างหน้า

การล้างหน้าไม่สะอาด นอกจากจะทำให้เกิดสิวแล้ว ยังทำให้เกิดริ้วรอยกระ  หากมีพฤติกรรมแบบนี้เป็นระยะเวลานาน มีโอกาสพบปัญหาผิวมีกระได้เช่นกัน

การรักษากระด้วยวิธีต่างๆ

ปัจจุบันการรักษาปัญหาผิวที่มีกระ สามารถทำได้หลายวิธี แต่ละวิธีก็มีความปลอดภัยและระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป แต่เราจะนำวิธีที่สามารถช่วยรักษากระให้ได้ผลอย่างแท้จริง

1.การรักษาด้วยยา

ปัจจุบันการใช้ยารักษากระ ส่วนใหญ่จะเป็นประเภททาผิว มีส่วนประกอบของไฮโดรควิโนน อาร์บูติน ส่วนส่วนประกอบอันหลังจะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย จึงไม่ค่อนนิยมมาผสมในเวชสำอางประเภทรักษากระแล้ว

2.การทำทรีทเม้นท์

เป็นวิธีการที่สามารถช่วยให้กระหายในระยะสั้นได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และกระทบในเรื่องของการระคายเคืองของผิวได้ สำหรับเคสที่มีผิวค่อนข้างบาง

3.การทำเลเซอร์

เป็นวิธีที่นิยมกัน เพราะทำให้กระหายไว แก้ปัญหาได้ตรงจุด แต่ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นหลังจากทำเลเซอร์คือ ผิวหนังชั้นบนจะอ่อนแอ ไวต่อแสง

ไม่อยากมีปัญหากระต้องทำอย่างไร

อย่างที่ทราบกันดีว่า  ปัญหาผิวที่หนักที่สุดและรักษายากที่สุด คือปัญหากระนี่แหละ เพราะไม่สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ ดีที่สุดก็แค่จางลงไปตามกาลเวลาเท่านั้น ยิ่งหากบำรุงผิวหรือดูแลผิวไม่ดีพอ ยิ่งทำให้เกิดกระเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม คราวนี้คือเรื่องใหญ่แน่นอน จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่เพิ่มขึ้น

ดังที่เราได้กล่าวมาข้างต้นว่า กระนั้นล้วนมาจากสาเหตุที่หลากหลาย ทั้งปัจจัยภายนอก การแต่งแต้มเครื่องสำอางค์มากมาย ในแต่ละวัน การปกป้องผิวได้มีดีพอ นอกจากนี้การดูแลสุขภาพผิวภายในด้วยคุณค่าทางอาหาร จะสามารถเป็นเกราะป้องกันปัญหาผิว ไม่ให้อ่อนแอ ผิวแข็งแรงมากขึ้น ทนสภาวะต่างๆได้มากขึ้น

ผิวประเภทไหนที่มีโอกาสเกิดปัญหากระได้ง่าย

ผิวแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อปัจจัยการเกิดปัญหากระที่ไม่เหมือนกัน สำหรับผิวมันจะสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะอื่นได้ดีในระดับหนึ่ง แต่หากเจอแสงแดดผิวอาจจะมันวาวกว่าผิวประเภทอื่น ส่วนผิวแห้งถือว่ามีโอกาสเกิดปัญหากระได้มากกว่าผิวประเภทอื่น และเห็นได้ชัดเจน ส่วนผิวผสมจะอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ค่อยเจอปัญหากระได้เร็วเหมือนผิวแห้ง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวแบบไหน ย่อมไม่มีใครปรารถนา เราไม่ควรละเลยการดูแลผิวของเราไป เพราะจะนำไปสู่ผิวที่โรยราก่อนวัย และใช้เวลาในการรักษาที่ยาวนานขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ ผิวก็เหมือนสุขภาพ หากเราดูแลใส่ใจอยู่เสมอ ผิวที่สวยและสุขภาพดีก็จะอยู่กับเราได้นาน

Leave a Reply