ขับมอเตอร์ไซค์โดนแดดจนเป็นฝ้าแดด รักษายังไง

แดดเมืองไทยก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าร้อนแรงมาก ชนิดที่ว่าออกไปข้างนอกตอนเที่ยงวันช่วงแดดจัดๆเพียงไม่กี่นาทีก็ออกมาตัวแทบไหม้แล้ว ดังนั้นไม่ต้องนึกเลยครับว่าถ้าต้องขับมอเตอร์ไซค์ตากแดดเป็นระยะเวลานานๆผิวจะเสียมากขนาดไหน แต่หลายคนก็มีความจำเป็นที่จะต้องขับมอเตอร์ไซค์ในช่วงแดดจัดๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทำให้เป็นสาเหตุของปัญหาผิวนานาประการ นับตั้งแต่ผิวไหม้แดด,ผิวลอก และเมื่อสะสมไปนานๆก็จะทำให้เกิดปัญหาฝ้าแดดที่ผู้หญิงหลายคนกลัวนักกลัวหนา

มีหลายคนมักมีคำถามว่าฝ้าแดดรักษาหายได้ไหม ซึ่งคำตอบก็คือต้องขึ้นอยู่กับว่าเป็นฝ้ามานานแค่ไหน หากเป็นฝ้าแดดที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีมาเป็นเวลานานๆก็มีความเป็นไปได้ว่าจะรักษาไม่หาย หรือหากเป็นฝ้าลึกก็อาจจะรักษาได้ยากมาก ต้องใช้เวลานาน ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นฝ้าลึกที่รักษาไม่หาย ต้องดูแลผิวให้ดีจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง

สาเหตุของฝ้าแดดคืออะไร

ถ้าจะให้ตอบแบบสั้นๆง่ายๆสาเหตุของฝ้าแดดก็คือแสงแดด โดยเฉพาะคนที่ต้องขับมอเตอร์ไซค์ตากแดด,เล่นกีฬาหรือทำงานกลางแจ้งเป็นระยะเวลานานๆติดต่อกัน

ฝ้าแดดมีสาเหตุมารังสี UV ที่มีอยู่ในแสงแดด ในประเทศไทยที่แดดจัดมากจึงทำให้ความเข้มข้นของ UV สูง  ไม่ว่าจะเป็น UVA หรือ UVB ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าแดดได้ทั้งนั้นครับ ซึ่งผิวที่ได้รับแสงแดดจัดจะมีการผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากขึ้น และอาจจะมากเกินไปในบริเวณที่โดนแสงแดดจัดโดยตรง อย่างเช่น บริเวณ โหนกแก้มและ หน้าผาก ทำให้ผิวบริเวณนั้นเป็นสีคล้ำ ไม่กระจ่างใส โดยมากคนที่เป็นฝ้าแดดที่ผิวบริเวณที่เป็นมีสีน้ำตาลคล้ำหรือสีเทาอมม่วงซึ่งหากปล่อยไว้ไม่รักษาหรือดูแลอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้กลายเป็นฝ้าลึกที่รักษาไม่หายได้

รักษาฝ้าแดดได้อย่างไร

ฝ้าแดดเป็นสิ่งที่รักษาได้ยาก แต่ก็สามารถทำได้ หากไม่ปล่อยให้ผิวหน้ามีฝ้าฝังลึกจนเกินไปและมีการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้ฝ้าดูจางลงได้ ซึ่งวิธีการรักษาฝ้าสามารถทำได้ดังนี้

  1. ใช้ครีมทาฝ้าที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอหรือ Retinoic acid , Hydroquinone หรือ Tranexamic ที่ช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี ทำให้ฝ้าดูจางลง ซึ่งต้องเป็นยาที่สั่งโดยแพทย์เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เนื่องจากตัวยากลุ่มนี้สามารถก่อให้การอักเสบและระคายเคืองได้ง่ายมาก ควรปรึกษาหมอผิวหนังเพื่อตรวจดูสภาพผิวและพิจารณาสั่งยาตามความเหมาะสมของแต่ละคนจะปลอดภัยกว่า
  2. ใช้ยาทาเฉพาะ ที่ช่วยกระตุ้นการหลุดลอกของเซลล์ผิว ทำให้ผิวชั้นบนที่หมองคล้ำถูกผลัดเปลี่ยนออกไปเพื่อให้ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ ทำให้ผิวหน้าดูขาวกระจ่างขึ้น ฝ้าแดดดูจางลง ซึ่งควรปรึกษาหมอผิวหนังก่อนใช้ยาเช่นกันเพราะมีผลข้างเคียงที่อาจทำให้ผิวแห้ง และบวมแดงได้หากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม
  3. การลอกผิวด้วยสารเคมี วิธีการนี้ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างหมอผิวหนังเท่านั้น โดยใช้กรด Trichloroacetic acid ที่มีความเข้มข้น 10 – 20 % ในการผลัดลอกเซลล์ผิวชั้นนอกสุดออกซึ่งจะช่วยรักษาฝ้าแดดในระดับตื้นๆอย่างได้ผลดีพอสมควร
  4. การผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังแท้ช่วงบน โดยใช้สารเคมีจำพวก AHA และ BHA ที่มีคุณสมบัติช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวในระดับโครงสร้างที่ได้รับผลกระทบจากรังสี UV ได้ดี
  5. การผลัดเซลล์ผิวชั้นลึกด้วย CO2 laser ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะหมอจะใช้วิธีการยิงเลเซอร์เข้าไปยังระดับชั้นผิวหนังที่มีปัญหาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลอกตัวที่เป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่วิธีนี้ก็ต้องทำโดยหมอผิวหนังที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเช่นกัน หลังทำต้องพักอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  6. การรักษาฝ้าแดดด้วย IPL ที่ใช้เครื่องยิงพลังงานแสงเข้มข้นยิงลงไปบนผิวบริเวณที่เป็นฝ้า ซึ่งต้องทำเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ติดต่อกัน 2-3 เดือนจึงจะเห็นผล

หลังจากรักษาฝ้าแดดแล้ว ต้องดูแลผิวด้วยการทาครีมกันแดด และหากต้องขับมอเตอร์ไซค์ฝ่าแดดจัดต้องสวมใส่เครื่องป้องกันเพื่อไม่ให้ฝ้ากลับมาเป็นซ้ำ

Leave a Reply