Lipolytic ฉีดสลายไขมันเฉพาะจุด ได้จริงหรือ

ไขมันส่วนเกินเป็นปัญหาที่สร้างความหงุดหงิดใจให้หลายคนไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะไขมันเฉพาะจุดถึงแม้จะออกกำลังกาย ควบคุมอาหารสักแค่ไหน ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงไปตามส่วนอื่นๆเลย การฉีดสลายไขมันจึงเป็นอีกทางออกหนึ่งและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หนึ่งในเทคนิคที่ขึ้นชื่อว่าดีและดังสุดๆว่ากันว่าเห็นผลเร็วใช้เวลาฟื้นตัวไม่นานคือ Lipolytic จะเป็นอย่างไร แตกต่างจากเทคนิคอื่นตรงไหนบ้าง มาดูกัน

Lipolytic Solution คืออะไร

ใช้วิธีการที่เรียกว่า เมโสเทอราพี ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในกระบวนการทำเมโสแฟตนั่นเอง อาศัยตัวยาในการสลายไขมันและขจัดเซลลูไลท์   เนื่องจากไขมันที่สะสมอยู่ชั้นในสุดของผิวหนังไม่สามารถใช้วิธีการนวดหรือทาเพื่อให้เซลล์ไขมันแตกตัวได้หรืออาจจะน้อยมาก โดยไม่ส่งผลต่อเซลล์ประสาทและหลอดเลือด ส่งผลโดยตรงกับเอนไซม์และตัวรับที่เกี่ยวข้องกับการสลายไขมัน และยังมีส่วนประกอบของตัวยาที่ช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจุดเด่นคือเน้นสลายไขมันบนใบหน้าในจุดที่ไม่กว้าง เช่น แก้ม เหนียง และสามารถใช้ได้กับส่วนอื่นๆตามร่างกาย

Lipolytic ที่นิยมใช้เป็นของแบรนด์ Mesoestetic  ได้ชื่อว่าเป็นตัวยาที่ดีที่สุด เป็นสถาบันวิจัยระดับโลกจากประเทศสเปน มีชื่อเสียงระดับสากลในการผลิตและจัดจำหน่ายยาทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้การค้นคว้าวิจัยและมีการอ้างอิงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ได้มาตรฐานทางเภสัชกรรมที่เข้มงวดที่สุดในโลก โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ตัวยาชนิดนี้เป็นสำเร็จรูปไม่ต้องผสมให้ยุ่งยาก ไม่เสี่ยงต่อ over dode ในกรณีที่ไม่มีความชำนาญมากพอหรือคำนวณปริมาณยาคาดเคลื่อน มีความปลอดภัยเป็นที่ยอมรับและจัดจำหน่ายมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก

ส่วนประกอบที่สำคัญ มีอะไรบ้าง

• Active substances ส่วนประกอบหลักเป็นตัวยาที่มีผลในแง่ของการสลายไขมัน ลดขนาดและจำนวนเซลล์ไขมัน แก้ปัญหาเซลลูไลท์ได้ทุกรูปแบบ ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดอาการบวมน้ำ และกระชับสัดส่วน
• Artichoke extract กระตุ้นการสร้างน้ำดีที่ตับ ช่วยขับสารพิษและระบายของเสียออกจากร่างกาย และการสลายไกลโคเจนในตับ
• L-carnitine เร่งการเผาผลาญไขมันในระดับเซลล์และเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นพลังงานมากขึ้น
• Theophylline ช่วยในการบล็อก receptor ของเยื่อหุ้มเซลล์ไขมัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการย่อยสลายไตรกลีเซอไรด์ในกลีเซอรอลและกรดไขมัน (โมเลกุลที่เล็กที่สุดของไขมัน)
• Organic silicon กระตุ้นการสร้างเซลล์ fibroblast ให้มีการผลิตคอลลาเจนใต้ผิวมากขึ้น ทำให้ผิวตึงกระชับ

Lipolytic ใช้แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

• สำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบนใบหน้า ตำแน่งที่นิยมฉีดคือ บริเวณใต้คาง(เหนียง) และแก้ม ส่วนอื่นๆ เช่น ต้นแขน ต้นขา เอว สะโพก หน้าท้อง น่อง แผ่นหลังส่วนบนและล่าง
• แม้แต่ผู้ที่เคยฉีดโบท็อกซ์มาแล้วแต่หน้ายังไม่ได้รูปตามที่ต้องการก็สามารถทำได้เช่นกัน

ผลลัพธ์และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

หลังจากการทำ Lipopytic ผิวหนังบริเวณนั้นจะไม่มีอาการบวม ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ในกรณีพื้นที่ขนาดใหญ่ อาจรู้สึกร้อนใต้ผิวหนังเนื่องมาจากตัวยา แต่จะดีขึ้นภายใน 1-2 วัน ผลลัพธ์ที่ได้จะค่อยเป็นค่อย เห็นผลชัดเจนขึ้นภายใน 1 สัปดาห์หลังทำ สามารถทำซ้ำได้ที่ 1-2 สัปดาห์ ในกรณีที่เคยร้อยไหมและฉีดโบท็อกซ์มา ควรเว้นระยะประมาณ 1-2 สัปดาห์เพื่อป้องกันการต้านกันของตัวยา จึงจะสามารถทำ Lipopytic ได้

การดูแลตัวเองหลังการทำ Lipolysis

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น การอบซาวน่า เล่นโยคะร้อน หรือการทำหัตถการที่อาศัยความร้อนบนบริเวณที่ทำ เพื่อป้องกันการสลายของตัวยา
• สามารถออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการสะสมใหม่ของไขมันและทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
• ควรดื่มน้ำมากๆและเลือกรับประทานอาหาร งดอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง

Lipolytic ไม่เหมาะกับใคร

• ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น โรคลูปัส โรคเอสแอลอี โรคไขข้ออักเสบ
• สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
• ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยาต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน
• ผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้สารต่างๆที่ใช้ในการรักษา
• ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง
• ผู้ป่วยโรคผิวหนัง เช่นสะเก็ดเงิน
• ผู้ป่วยที่ทีประวัติเป็นโรคเริมในบริเวณที่จำทำการรักษา

บางคนทำแล้ว เหตุใดจึงไม่เห็นผล

• พื้นฐานใบหน้าแต่ละคนแตกต่างกัน มีชั้นกล้ามเนื้อที่หนาและมากเกินไป การฉีดจะไม่ถึงชั้นไขมัน
• ทานน้ำน้อยเกินไป ไขมันจึงไม่ถูกขับออกมา
• ตัวยาขาดคุณภาพ เนื่องจากการเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้อง

Lipopytic เป็นทางเลือกที่ดีในการฉีดสลายไขมัน นอกจากจะให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจแล้ว ยังเจ็บตัวและมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการฉีดสลายไขมันแบบอื่น ข้อควรระวังที่สำคัญคือการเลือกใช้ยาที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าไม่ใช่ยาปลอม เพราะนอกจากจะไม่เห็นผลแล้วยังเจ็บตัวฟรีหรืออาจเกิดอันตรายขึ้นได้ ศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจทำโดยสอบถามได้จากแพทย์ผิวหนังที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ เพราะปัญหาไขมันบนใบหน้านั้นมีหลากหลายวิธีให้เลือกใช้ อย่าลืมที่จะบอกรายละเอียดส่วนตัว ประวัติการแพ้ยา ประสบการณ์ในการรักษาต่างๆที่ทำมาก่อนหน้านี้ ไหนๆจะสวยทั้งทีต้องเลือกที่มีคุณภาพและปลอดภัยเท่านั้นถึงจะดีที่สุด