วิธีจัดการกับปัญหาถุงใต้ตา

หนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยสำหรับผู้หญิงที่อายุกำลังจะเลยวัยเลขสามย่างเข้าสู่วัยเลขสี่ นั่นคือถุงใต้ตาบวมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเวลาตื่นนอนความบวมจะทวีคูณขึ้นเกือบเท่าตัว ทุกอย่างบนใบหน้าจึงดูอิดโรยไร้ชีวิตชีวา หรือแม้แต่สาวๆที่อดนอน โหมงานหนัก ก็หนีไม่พ้นกับคำทักทายที่ว่า “ทำไมช่วงนี้ดูเหนื่อยจัง” ทำเอาเสียความมั่นใจไปทั้งวัน จะส่องกระจกแต่ละทีก็ทำใจลำบาก แต่งหน้าปกปิดแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ ลองมาสารพัดวิธียังไม่เห็นผล แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออกสำหรับเรื่องนี้ มีหนทางใดบ้างที่สามารถช่วยได้

ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร

ถุงใต้ตา คือ ถุงไขมันที่อยู่ในเบ้าตา บริเวณเปลือกตาบนสองถุง และใต้เปลือกตาล่าง 3 ถุง มี 2 แบบคือ

  • ถุงใต้ตาแท้ เกิดจากระบบต่อมไร้ท่อภายในร่างกายที่ทำงานผิดปกติซึ่งสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ และอีกส่วนหนึ่งคือ ปกติแล้วถุงไขมันนี้จะถูกกั้นไว้ด้วยกล้ามเนื้อเปลือกตาที่แข็งแรง แต่เมื่ออายุมากขึ้นเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้อบริเวณใต้ดวงตาจะอ่อนแรงลงเกิดการหย่อนตัว ไขมันและของเหลวที่อยู่โดยรอบก็จะเคลื่อนตัวมาอยู่รวมกันบริเวณผิวหนังใต้ตา จนเกิดการบวมนูนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก้อนไขมันนี้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นไปตามอายุ เห็นเป็นรอยหย่อยคล้อยใต้ดวงตา
  • ถุงใต้ตาเทียม เป็นอาการบวมน้ำ มีสาเหตุมาจากระบบการไหลเวียนของเหลวในร่างกายไม่ดี ทำให้มีของเหลวไปคั่งอยู่ใต้ตา มักมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ปกติเช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ใช้สายตามากเกินไปทั้งการเพ่งเป็นเวลานาน การเล่นมือถือในที่มืด ร้องไห้หนักมาก ชอบขยี้ตา ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และการรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดอาการบวม

โดยปกติแล้วถุงใต้ตามักไม่ใช่สัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ยกเว้นเกิดการติดเชื้อจนเกิดอาการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณใต้ดวงตา หรือการระคายเคืองที่เกิดจากการแพ้ที่มีอาการคันร่วมด้วย

วิธีจัดการกับปัญหาถุงใต้ตา

สำหรับปัญหาถุงใต้ตาเทียมให้งดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ อาจใช้วิธีประคบเย็นที่ดวงตาเป็นประจำช่วยให้ทุเลาลงได้ ส่วนถุงใต้ตาแท้นั้น แน่นอนว่าวิธีดังกล่าวใช้ไม่ได้ผล ซึ่งมีหลายวิธีแตกต่างกันตามกระบวนการรักษาคือ

  • การผ่าตัดถุงใต้ตา แม้จะเป็นวิธีที่ดีและได้ผลเร็วแต่ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ดีเสียก่อน เพราะผิวบริเวณตาเป็นจุดที่บอบบางมาก อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รูปร่างเปลือกตาผิดแปลกไป หรือกระทบต่อการมองเห็น และอาจไม่เหมาะสำหรับบางคน
  • การทำเลเซอร์ถุงใต้ตา ใช้แสงเลเซอร์มาช่วยในการผ่าตัดเพื่อนำถุงไขมันใต้ตาออกมาจากด้านในของหนังตา แต่ไม่ได้นำไขมันออกจนหมด ทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น เสียเลือดและมีอาการบวมช้ำน้อยกว่าการผ่าตัดถุงใต้ตาจากภายนอก สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เป็นปกติในวันถัดไป โดยไม่มีแผลภายนอกให้เห็น มีความปลอดภัยสูงมากหากกระทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์
  • การฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณร่องตา เพื่อเป็นการแก้ปัญหาทำให้ร่องตาบริเวณถุงใต้ตาดูตื้นขึ้น แต่ก็ไม่ใช่วิธีการรักษาถุงใต้ตาโดยตรง และหากทำไม่ดีอาจทำให้ถุงใต้ตาดูชัดมากขึ้นกว่าเดิม
  • การยกกระชับด้วยคลื่นวิทยุ (Radio Frequency – RF) ช่วยทำให้ไขมันใต้ตามีขนาดเล็กลง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ปัญหาถุงใต้ตาที่เป็นอยู่หายขาดได้ เพราะวิธีนี้เป็นเพียงการช่วยยกกระชับผิวใต้ตา ทำให้ถุงใต้ตาดูเล็กลงบ้างเท่านั้น
  • การฉีดสลายไขมัน เป็นวิธีที่ค่อนข้างเสี่ยง ไม่มีความปลอดภัย อาจเกิดการอักเสบส่งผลให้ตาบอดได้

ไม่ว่าจะเลือกจัดการด้วยวิธีใดก็ตาม อย่าลืมดูแลตัวเองหลังได้รับการรักษารวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ดีขึ้น ไม่มีวิธีใดที่สามารถการันตีผลลัพธ์ได้ 100% ซึ่งผลการรักษาแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญคือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพียงเท่านี้ก็เป็นการช่วยส่งเสริมให้ดวงตาคู่สวยสามารถเปล่งประกายได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง

 

 

Leave a Reply