7 อาหารทำลายผิว

คำกล่าวที่ว่า You are What you eat. ดูเหมือนจะตรงตามความเป็นจริง เพราะอาหารนอกจากจะเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตแล้ว การได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกายมีประสิทธิภาพ การเลือกบริโภคในสิ่งที่ดีและมีประโยชน์จึงมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะสาวๆที่รักสวยรักงามมักจะพิถีพิถันในการเลือกทานอาหารที่เน้นให้มีผิวพรรณที่สวยงาม แล้วมีอาหารประเภทใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง หากไม่อยากทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว

1.ของหวาน และอาหารที่อุดมไปด้วยปริมาณน้ำตาลที่สูง

ขนมหวานดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับสาวๆที่รักความหวาน ไม่ว่าจะเป็นขนมทานคู่กับกาแฟในมื้อเช้า ของว่างยามบ่ายหรือขนมหวานหลังมื้ออาหาร ที่ช่วยเติมเต็มความสุขทุกครั้งที่ตักเข้าปาก แม้จะเป็นเพียงชิ้นเล็กๆแต่ปริมาณน้ำตาลที่ซ่อนอยู่มีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน รวมทั้งเครื่องดื่มระหว่างวันเช่น ชานมไข่มุก กาแฟเย็น น้ำผลไม้กล่อง เครื่องดื่มบรรจุขวดต่างๆ ซึ่งน้ำตาลสามารถทำลายความยืดหยุ่นของผิวหนังได้ ทำให้สมดุลในร่างกายเกิดความเสียหาย หากบริโภคน้ำตาลติดต่อเป็นเวลานาน อาจเห็นเส้นริ้วรอยบนใบหน้า ใต้ตาหย่อนคล้อย ดังนั้นคราวหน้าลองหันมาทานผลไม้แทน หรือลดปริมาณน้ำตาลลง เปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่า และค่อยๆเลิกนิสัยติดของหวาน จะทำให้ผิวดูดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

2.เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

แม้ว่าไวน์แดงจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ควรดื่มในปริมาณที่น้อยและไม่บ่อยนัก นอกจากแอลกอฮอล์จะมีผลต่อตับแล้ว ยังทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่นได้อีกด้วย ผิวจึงขาดน้ำ ไม่สดใส ตาบวม ร่างกายขาดวิตามินบี ผิวซีดเซียว นำไปสู่การเกิดริ้วรอยได้ง่าย รูขุมขนกว้างขึ้น เป็นสิว หรือเกิดรอยแดงบริเวณแก้มและจมูก

3.อาหารที่มีไขมันสูง

ไม่ว่าจะเป็นไขมันที่มาจากเนื้อสัตว์ นม เนย หรืออาหารฟาสต์ฟู้ด เน้นการทอดที่ใช้น้ำมันเยอะๆ ซึ่งเป็นของโปรดใครหลายคน บ่อยครั้งที่ยากจะห้ามใจไม่ให้ทานได้ นอกจากจะทำให้เซลล์เสื่อมได้ง่าย ยังส่งผลต่อระบบย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพลดลง สมองทำงานช้าลงเกิดความคิดสับสน แล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนที่นำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บที่ร้ายแรงอย่างเช่น โรคหัวใจ โรคความดันได้ และยังเกิดการคั่งของของเสียในร่างกายการขับถ่ายมีความยากลำบาก ส่วนเรื่องของผิวพรรณทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวแก่ก่อนวัย หน้ามันมากกว่าปกติ รูขุมขนอุดตัน เกิดสิวง่ายโดยเฉพาะสิวอักเสบ

4.อาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูป

ในยุคที่ทุกอย่างดูเร่งรีบวุ่นวาย รูปแบบอาหารที่ทานได้มีการพัฒนาให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่ฉีกซองแล้วอุ่นก็พร้อมสำหรับการรับประทาน หรืออาหารกระป๋อง ไส้กรอก กุนเชียง ซึ่งอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปในแวดวงอุตสาหกรรม แน่นอนว่าต้องมีการใช้สารเคมีเข้ามาช่วยในการถนอมอาหารให้สามารถเก็บได้นานและคงรสชาติให้ใกล้เคียงอาหารที่ทำสำเร็จไว้มากที่สุด สิ่งที่น่ากังวลคงหนีไม่พ้นปริมาณโซเดียมที่ค่อนข้างสูง ที่ก่อให้เกิดอาการบวมน้ำในร่างกาย สังเกตได้จากใต้ตาที่บวมเป่งหลังตื่นนอน

5.อาหารปิ้งย่าง

กลิ่นหอมของเบคอนย่าง บวกกับรสชาติของน้ำจิ้มสุดแซ่บ ช่างเข้ากันเหลือเกิน อย่าลืมว่าอาหารประเภทนี้ก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงเข้าไปทำลายเซลล์ต่างๆของร่างกาย รวมทั้งผิวหน้าด้วย ความหมองคล้ำและริ้วรอยคือหลักฐานชิ้นสำคัญของการรับประทานอาหารปิ้งย่างเป็นประจำ คราวหน้าลองเปลี่ยนเป็นการต้มจะดีกว่า

2.นม และผลิตภัณฑ์จากนม

การดื่มนมนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีและราคาถูก แต่อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับทุกคน เพราะเกือบทั้งหมดมีการฉีดฮอร์โมนให้วัวเพื่อสามารถผลิตน้ำนมได้ทั้งปี มีบางงานวิจัยพบว่าฮอร์โมนที่พบในน้ำนมสามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ลองสังเกตง่ายๆว่าหากทุกครั้งที่ดื่มนมหรือทานอาหารพวกชีส โยเกิร์ต ไอศกรีม แล้วเกิดสิวขึ้นบริเวณคาง นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้ ลองหยุดดื่มนมดูสักพักแล้วสังเกตว่าผิวดีขึ้นหรือไม่ สำหรับคนที่มีปัญหาในการย่อยนมซึ่งพบได้มาก อาจเกิดกระบวนการอักเสบทำให้ผิวบวมแดง เปลือกตาบวม ใต้ตาหมองคล้ำ

 

อาหารบางชนิดเมื่อรับประทานบ่อยในปริมาณที่มากเกินไป ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อผิวหน้า ร่างกายเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทางที่ดีควรเน้นทานอาหารสดใหม่จากธรรมชาติ นอกจากผิวจะสวยแล้วสุขภาพก็จะดีขึ้นอีกด้วย

 

Leave a Reply