ว่ากันว่าผู้หญิงจะสวยที่สุดตอนตื่นนอน คำกล่าวนี้เชื่อถือได้หรือไม่ เราต่างก็รู้ดีว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตนเอง เพียงแต่มีความไม่มั่นใจที่แตกต่างกันไป เนื่องจากปัญหาของผิวพรรณที่เกิดขึ้น เช่น รอยสิว จุดด่างดำ ฝ้ากระ ริ้วรอยความหมองคล้ำ ฯ แม้กลไกลการทำงานของเซลล์ผิวจะเปลี่ยนแปลงตามอายุ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความสวยต้องหยุดอยู่แค่นั้น ผู้หญิงทุกคนสามารถดูดีได้เพียงแค่ต้องรู้วิธีในการดูแลตนเอง มีเคล็ดลับอะไรบ้างที่ทำให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับผิวหน้าที่สวยสดใส
1.ทำความสะอาดผิวอย่างหมดจดทุกครั้งก่อนเข้านอน
ยิ่งแต่งหน้าน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี และหากไม่ปล่อยให้เครื่องสำอางอยู่บนหน้านานเกินไปจะยิ่งดีกว่า การแต่งหน้ามีประโยชน์ตรงที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้น สีสันที่แต่งแต้มทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวา และเป็นการปกป้องผิวหน้าจะมลภาวะต่างๆไม่ให้เกิดการสัมผัสโดยตรง เมื่อกลับถึงบ้านควรให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้เป็นอันดับแรก ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องฝืน เพราะผลที่ได้มีแต่จะสร้างความเสียหายให้กับผิวหน้า เครื่องสำอางที่เกาะติดอยู่หลายชั่วโมง บวกกับคราบเหงื่อและความสกปรกต่างๆ เป็นตัวการหลักที่ก่อให้เกิดสิวไปจนถึงริ้วรอย
2.ใส่ใจกับท่าทางในการนอน
ท่าทางการนอนที่เหมาะสม นอกจากช่วยให้หลับสลายแล้ว ยังส่งผลกับผิวหน้าได้ในระยะยาว สำหรับคนที่ชอบนอนคว่ำเมื่อใบหน้าสัมผัสกับหมอนมีโอกาสที่จะเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น แม้แต่การยกหมอนให้สูงขึ้นซักหน่อยจะช่วยลดอาการบวมใต้ตาได้ เนื่องจากของเหลวได้ระบายออกจากใบหน้า รวมไปถึงการเลือกใช้ปลอกหมอนที่ทำจากผ้าไหมหรือผ้าที่เรียบลื่นเกิดรอยยับได้ยากก็เป็นการป้องกันการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้เช่นกัน
3.เลือกใช้สกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพอากาศ
การใช้สกินแคร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยบำรุงเซลล์ผิวที่ถูกทำลายและเป็นเหมือนการสร้างเกราะป้องกันเมื่อต้องเจอกับมลภาวะต่างๆ นอกจากการเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวแล้ว ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพอากาศเช่นกัน ในช่วงหน้าร้อนลองเปลี่ยนมาใช้สกินแคร์ที่มีเนื้อสัมผัสเบาอย่างเซรั่มหรือเจล จะช่วยในการกระชับรูขุมขน ส่วนช่วงที่อากาศหนาวหรือสาวๆคนไหนที่นอนห้องแอร์บางครั้งจะรู้สึกได้ว่าผิวค่อนข้างแห้งได้ง่าย เลือกสกินแคร์ที่เน้นให้ความชุ่มชื่นเป็นพิเศษ เป็นการเคลือบชั้นผิวและช่วยป้องกันการระเหยของความชื้นออกจากผิว
4.พักสายตาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด
ลองหากิจกรรมเบาๆก่อนนอน เพื่อสร้างความผ่อนคลายก่อนเอนกายลงบนเตียงนุ่มๆ เช่น การทำสมาธิพูดคุยอย่างผ่อนคลายกับคนรัก หรือการอ่านหนังสือที่ชอบ หลีกเลี่ยงการจดจ่ออยู่กับหน้าจอทีวีหรือมือถือ ยิ่งเสพข่าวสารมากขึ้นยิ่งมีโอกาสที่จะใช้เวลานานขึ้น กว่าจะรู้ตัวก็เหลือเวลาในการพักผ่อนแค่ไม่กี่ชั่วโมง บางเรื่องอาจส่งผลให้มีอารมณ์เครียดมากกว่าเดิม จนกลายเป็นว่านอนไม่หลับ ซึ่งใบหน้าที่หมองคล้ำจะเป็นอย่างแรกที่สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน ตามมาด้วยปัญหาหน้ามันง่ายขึ้น รูขุมขนกว้างกว่าเดิม ผิวแห้งกร้าน และอีกสารพัดปัญหาที่ตามมา
5.สร้างสภาพแวดล้อมให้นอนหลับสบาย
ห้องนอนที่ดีต้องมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เป็นสถานที่ๆหลบหนีจากความเครียดที่เผชิญมาทั้งวัน ต้องมีอากาศถ่ายเทสะดวก มีความเป็นระเบียบ สะอาดไม่มีกลิ่นที่รบกวนใจ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนได้ดีขึ้น ส่งผลให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ ตื่นมาพร้อมกับใบหน้าที่สดใสและพลังงานที่เต็มเปี่ยม
6.เช็คดูว่าจำนวนชั่วโมงในการนอนเพียงพอหรือไม่
ในตอนกลางคืนร่างกายจะเข้าสู่โหมดการซ่อมแซมตัวเองอย่างหนัก หลังจากที่ทำภารกิจเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน หากได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ผิวดูซีดและเหนื่อยล้า เนื่องจากระบบการไหลเวียนโลหิตทำงานบกพร่อง การนอนหลับที่สนิทช่วยลดความเครียดลงได้และทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น
จริงๆแล้วก่อนเข้าสู่กระบวนการพักผ่อน เราควรเตรียมความพร้อมเพื่อให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ใช่แค่ในเรื่องของผิวพรรณที่ดี แต่ส่งผลทั่วทั้งร่างกาย ลองสังเกตดูว่าผิวหน้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาแล้วหรือยังในการเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี
Leave a Reply