5 วิธี เลือกครีมกันแดดอย่างไร ให้เหมาะสำหรับผิวระคายเคือง

ใครๆต่างก็รู้ดีว่าอันตรายจากแสงแดดที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังนั้นเป็นอย่างไร นอกจากทำให้ผิวรู้สึกแสบร้อนจนแทบจะไหม้แล้ว อันตรายจากรังสีUV ที่อยู่ในแสงแดดถือเป็นศัตรูตัวร้ายที่ทำลายผิว ทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้ากระ มีอานุภาพความรุนแรงลงลึกไปจนถึงระดับ DNA สาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งผิวหนัง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงควรใช้ครีมกันแดด โดยเฉพาะกับบริเวณใบหน้าที่มีโอกาสสัมผัสกับแสงแดดได้มากที่สุด แม้จะมีข้อดีแต่ยังคงเป็นปัญหาสำหรับสาวผิวระคายเคืองในการที่จะหาครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว แล้วอย่างนี้จะมีวิธีในการเลือกใช้อย่างไร

1.เลือกสูตรที่มีความอ่อนโยน และไม่เป็นอันตรายต่อผิว

ลองมองหาครีมกันแดดที่ระบุว่า For Sensitive Skin ที่ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และปลอดสารพิษ ปราศจากการปรุงแต่สี กลิ่น แอลกอฮอล์ และสารกันเสีย  เพื่อหลีกเลี่ยงแนวโน้มในการเกิดสิวและผดผื่นคันต่างๆ บางแบรนด์เป็นการใช้สารกันแดดประเภทกายภาพ (Physical Sunscreen) ที่มีส่วนผสมของ Zinc oxide หรือ Titanium dioxide อาศัยหลักการสะท้อนและบล็อกรังสี UVA และ UVB อีกคุณสมบัติเด่นคือเมื่อทาแล้วสามารถโดนแดดได้เลยโดยไม่ต้องรอ เหมาะผู้ที่แพ้ครีมกันแดดประเภทเคมี (Chemical Sunscreen)

2.ครีมกันแดดมีเนื้อบางเบา

หลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมจากน้ำมัน อาจก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน อาจเลือกที่มีส่วนผสมของน้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวมีความนุ่มนวล โดยไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เนื้อของครีมกันแดดควรเลือกชนิดที่ไม่เป็นเนื้อครีมที่มีความข้นสูงเกินไป เช่น เนื้อมูส เมื่อทาแล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนมีแป้งเคลือบอยู่บนผิวหน้า เนื้อสัมผัสที่รู้สึกนุ่มสบาย ควบคุมความมันได้ดี ส่วนเนื้อโลชั่น ซึมง่าย เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าด้วยการใช้รองพื้น

3.อย่าลืมให้ความสำคัญกับค่า SPF

ผิวระคายเคืองง่ายก็ต้องการการปกป้องอย่างถูกวิธี เลือกค่า SPF30 PA+++ เป็นอย่างต่ำ สำหรับสภาพอากาศบ้านเราหรือสาวๆที่ต้องออกนอกสถานที่บ่อยๆอาจเลือกที่สูงขึ้นมาหน่อยอย่าง SPF50 PA+++  และควรเลือกชนิดที่สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ และต้องปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม (Broad-Spectrum) ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB รวมถึงการทาครีมกันแดดอย่างถูกต้องทั่วใบหน้าเป็นการช่วยปกป้องได้อย่างเต็มที่

4.แม้ปกป้องแต่ยังต้องการความชุ่มชื่น

ครีมกันแดดบางแบรนด์ยังช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวไปในตัว เนื้อครีมบางเบาที่ซึมซาบลงสู่ผิวพร้อมกับมอบความชุ่มชื่น ให้ความรู้สึกแห้งทันทีที่ทาโดยไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า เป็นทั้งการปกป้องและบำรุงในขั้นตอนเดียว เช่น Vitamin E ที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระเนื่องมาจากแสงแดดและความร้อน ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ป้องกันผิวแห้งกร้าน และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย หรือสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกันนี้

5.หากต้องทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง

การทาครีมกันแดดระหว่างวันลงบนผิวหน้า อาจฟังดูไม่เหมาะซักเท่าไหร่ แต่หากมีความจำเป็นและเป็นการช่วยปกป้องขึ้นอีกระดับ ตัวเลือกที่น่าสนใจคือ ครีมกันแดดรูปแบบฝุ่น ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สามารถปัดลงไปบนผิวหน้าคล้ายกับการปัดบรอนเซอร์ หรือเนื้อเอสเซ้นส์ ให้ความรู้สึกบางเบา ไม่เป็นคราบ ทาทับลงบนหน้าได้ทันที โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องสำอางจะหลุดระหว่างวัน และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยปกป้องผิวขึ้นอีกขั้น

 

การทาครีมกันแดดเป็นอีกหนึ่งวิธีในการปกป้องผิวจากแสงแดด อย่างไรนั้นการหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นสิ่งที่ควรกระทำมากที่สุด ช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสูงคือ 9.00 – 15.00 น. ถ้ามีความจำเป็นควรใช้อุปกรณ์เสริมอย่างเช่น ร่ม หรือหมวกแม้แต่การสวมเสื้อแขนยาว มองหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและอ่านรายละเอียดบนฉลากก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับสาวๆที่มีผิวระคายเคืองง่าย ลองสังเกตตัวเองดูว่าสารใดที่ก่อให้เกิดปัญหาทุกครั้งเมื่อมีการใช้ครีมกันแดด รวมไปถึงครีมบำรุงผิวและเครื่องสำอางชนิดอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่โอกาสที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ในครั้งต่อไป

Leave a Reply