5 วิตามินช่วยให้หน้าใส อ่อนกว่า !!!

วิตามิน เป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่ร่างกายต้องการในปริมาณเล็กน้อยแต่ขาดไม่ได้ หากร่างกายขาดวิตามิน อาจส่งผลเสียทำให้เกิดความเจ็บป่วยได้ แม้จะไม่ให้พลังงานแต่ช่วยทำให้มีปฏิกิริยาในร่างกายเกิดขึ้น ส่งผลให้การทำงานของระบบต่างๆเป็นไปตามปกติ ด้วยความที่วิตามินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สาวๆหลายคนจึงสรรหาวิตามินมาช่วยในเรื่องความงาม แล้วมีวิตามินอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผิว

1.วิตามิน A คุณสมบัติเด่น  : ต่อสู้ริ้วรอย

อนุพันธ์วิตามินเอไม่ว่าจะเป็น  Retinol, Retinoic acid และ Retinaldehyde ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ลดความหมองคล้ำและริ้วรอย ซึ่ง Retinol เป็นที่นิยมมากที่สุด มักถูกผสมในครีมทาสิว มีคุณสมบัติในการละลายไขมัน จึงลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ช่วยในการรักษาสิว ลดการอักเสบของสิว ทำให้ยุบลงได้อย่างรวดเร็ว และไม่ลุกลาม แต่หากเป็นกรดวิตามินเอ สามารถทำให้ผิวแห้ง ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ในขณะที่ Retinaldehyde มีการใช้งานมากที่สุดและทำงานได้ดีกับสภาพผิวส่วนใหญ่

2.วิตามิน B คุณสมบัติเด่น  : ลดรอยแดง

ตัวที่โดดเด่นคือ Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ช่วยปกป้องผิวหนัง เสริมสร้างความแข็งแรงชั้นนอกของผิว กระตุ้นการสร้างกรดไขมันและเซราไมด์ ช่วยควบคุมการสร้างเม็ดสีผิว ลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ โดยจะทำการกระจายเม็ดสีใต้ผิวที่จับตัวกันเป็นกลุ่มก้อนเข้มๆให้กระจายออกไปด้านล่างของชั้นผิว จึงมีประสิทธิภาพเรื่องความกระจ่างใส พร้อมยังเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน และอีลาสติน ช่วยเพิ่มความกระชับยืดหยุ่น และความชุ่มชื่นให้แก่ผิว

วิตามินบี 5 เป็นที่รู้จักในนามของกรด Pantothenic และ Panthenol จัดอยู่กลุ่มของวิตามินบีที่ขึ้นชื่อในเรื่องป้องกันการสูญเสียในน้ำในผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง และยังลดการอักเสบได้อีกด้วย

3.วิตามิน C คุณสมบัติเด่น  : ลดจุดด่างดำ

ในบรรดารูปแบบต่างๆของวิตามินซี ดาวเด่นที่เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น ผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรเซอร์ โทนเนอร์ และเซรั่ม นั่นคือ กรดแอสคอร์บิก ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดริ้วรอย ผิวตึงกระชับ ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ปัญหาผิวคล้ำเสีย ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ดูสว่างกระจ่างใส ป้องกันผิวไหม้จากการโดนแสงแดด และอย่าลืมว่าสารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมด รวมถึงวิตามินซีที่บริสุทธิ์ มักมีความเปราะบาง เสื่อมสภาพได้ง่ายหากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี จึงจำเป็นต้องเลือกบรรจุภัณฑ์แบบทึบแสง และต้องป้องกันไม่ให้มีอากาศเข้าไป คำแนะนำคือไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์วิตามินซีในรูปแบบกระปุก

4.วิตามิน E คุณสมบัติเด่น  : เติมเต็มความชุ่มชื่น

วิตามินอีที่ใช้ในสกินแคร์มีหลายตัว เช่น alpha-topcoherol, beta-tocopherol , gamma-tocopherol  หรือแม้แต่วิตามินอีบริสุทธิ์ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง และควบคุมการสร้างเม็ดสี สามารถบรรเทาอาการผิวไหม้แดด และช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีให้กับครีมกันแดด ช่วยลดริ้วรอย รอยแผลเป็นต่างๆ นอกจากจะทำให้ผิวชุ่มชื่นชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวแล้ว ยังเหมาะสำหรับผิวอ่อนแอ ระคายเคืองง่ายอีกด้วย เพราะช่วยเสริมให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น พอเกราะป้องกันผิวแข็งแรง ผิวก็จะไม่ค่อยมีรอยรั่ว ทำให้ล็อกความชุ่มชื่นไว้กับผิวได้เป็นอย่างดี ผิวจึงดูสวยเรียบเนียน

5.วิตามิน K คุณสมบัติเด่น  : ลดรอยคล้ำ

เป็นวิตามินที่จำเป็นสำหรับการรักษาบาดแผล และรอยฟกช้ำ จัดการกับปัญหาผิวที่ดูหมองคล้ำ เนื่องจากระบบการไหลเวียนโลหิตทำงานไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เช่น เส้นเลือดขอด นิยมใช้เป็นส่วนผสมในครีมบำรุงรอบดวงตา เพราะสามารถลดรอยคล้ำใต้ตาได้ และช่วยป้องกันผิวไม่ให้สูญเสียความยืดหยุ่น

ประโยชน์ของวิตามินมีมากกว่าแค่การบำรุงผิว เพราะเป็นตัวแปรสำคัญของร่างกาย หากจะทานวิตามินอะไร หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวไหน ควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากจนเกินไป อย่าลืมศึกษาผลข้างเคียงจากการได้รับปริมาณวิตามินที่มากเกินความจำเป็น ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทาน ไม่ควรซื้อมาทานเอง ส่วนการฉีดวิตามินเข้าสู่ผิว เพื่อให้ดูใสมีออร่านั้น ต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เลือกใช้บริการคลินิกเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ เพราะก่อนจะสวย เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ

Leave a Reply