4 สิ่งที่สร้างความกังวลและมักจะพบได้บ่อยบนผิวหน้า

สารพันปัญหาผิวหน้าที่สร้างความกังวลใจตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่นก็ไม่วายที่จะเกิดขึ้นได้อีกเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ บางปัญหาอาจรุนแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ใช่ว่าลักษณะอาการที่เกิดขึ้นบนผิวหน้าจะส่งผลถึงขั้นก่อโรคร้ายแรง ด้วยปัจจัยหลายอย่างบวกกับอายุที่เพิ่มขึ้น แน่นอนว่าผิวหนังต้องรับศึกหนักเป็นธรรมดา มีปัญหาอะไรบ้างที่พบได้บ่อยบนผิวหน้า

1.สิวข้าวสาร (Milia)

ตุ่มเม็ดเล็กๆสีขาวที่เรียกว่า Milia  มักสร้างความวิตกและน่ารำคาญอยู่ไม่น้อย แม้จะพยายามบีบ แกะ แคะ เกา ไม่ว่าจะพยายามอย่างหนักแค่ไหน ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออกไปจากผิวหน้า สามารถพบได้ทุกวัยทั้งชายและหญิง แต่มักพบบ่อยในเด็กทารก

สาเหตุ : ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสิวข้าวสาร หรือสิวหิน ขนาดเล็กที่อยู่ในผิวหนังชั้นตื้นๆ ไม่ได้เกิดจากความสกปรก เป็นเพียงถุงเล็กๆที่ไม่เป็นอันตราย เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว  ยิ่งเอามือไปยุ่งมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างความเสียหายที่อาจทำให้ผิวมีการระคายเคืองเกิดรอยแดงได้

การรักษา : สิวข้าวสารนี้ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาหรือกำจัดออก อาจสร้างความรำคาญหรือเหตุผลด้านความงามเป็นหลัก แต่ถ้าอยากกำจัด การพบแพทย์ผิวหนังเป็นทางออกสำหรับกรณีนี้ ซึ่งแพทย์จะใช้เข็มสะกิดออกหรือใช้เลเซอร์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ครีมในกลุ่ม retinoid เพื่อช่วยให้ตุ่มเล็กๆเหล่านั้นเรียบขึ้น

2.สิวหัวดำ และสิวหัวขาว (Blackheads and whiteheads)

ดูเหมือนว่าสิวอุดตันเหล่านี้เป็นปัญหาที่เจอกันบ่อย และเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากไม่ต้องการให้ปัญหาบานปลาย ก็ไม่ควรที่จะเอามือไปสัมผัสบ่อยๆ

สาเหตุ : รูขุมขนที่อุดตันไปด้วยน้ำมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรีย ท่อที่อุดตันจะถูกดันขึ้นกลายเป็นตุ่มเล็กๆหรือสิวหัวขาว หากผสมกับเม็ดสีที่ผิวหนังก็จะกลายเป็นสิวหัวดำ การบีบจะเป็นการดันเชื้อแบคทีเรียให้ลึกลงไป และทำให้ผิวเกิดการบาดเจ็บ

การรักษา : ส่วนผสมที่ดีที่สุดในการจัดการกับสิวหัวดำคือการรักษาด้วย salicylic acid และ retinol รวมถึงการผลัดเซลล์ผิว ที่ช่วยส่งเสริมการหมุนเวียนของเซลล์ผิว หากมีสิวอุดตันเพิ่มมากขึ้น และสิวที่มีอยู่ก่อนแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะหาย อาจต้องไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อกดสิวออก

3.สิวซีสต์  (Cystic acne pimples)

เซลล์ผิวชั้นนอกที่ฝังลึกมากใต้ชั้นผิวหนังจนเกิดเป็นก้อนสีแดง มีขนาดใหญ่ ไม่เพียงแต่สร้างความเจ็บปวด แต่ยังมีโอกาสที่จะเกิดการอักเสบจนเป็นหนอง กลายเป็นก้อนซีสต์ขนาดใหญ่ ที่มักจะนำไปสู่รอยแผลเป็นที่ยากต่อการรักษา

สาเหตุ : สิวลักษณะเช่นนี้เกิดจากการผันผวนของระดับฮอร์โมนและแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว เมื่อผิวหนังมีการผลิตน้ำมันที่มากเกินไปทำให้รูขุมขนมีโอกาสอุดตันได้ง่ายขึ้น

การรักษา : หยุดค้นหาวิธีรักษาด้วยตัวเอง การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเป็นการรักษาสิวซีสต์แบบเห็นผลเร็วทันใจที่สุด ซึ่งสามารถรักษาได้อย่างถูกต้อง ช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นหลุมสิวได้

4.กระเนื้อ (Seborrheic keratosis)

เมื่อเกิดก้อนเนื้อขึ้น หลายคนมักจะตระหนกตกใจ ซึ่งกระเนื้อชนิดนี้ไม่ใช่มะเร็ง มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อเล็กๆ มักพบตามใบหน้า ลำคอ ไหล่ และหลัง มีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้ม ไม่สร้างความเจ็บปวดและไม่จำเป็นต้องรักษา พบได้บ่อยในวัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุ

สาเหตุ : แม้ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่อายุ พันธุกรรม และแสงแดด เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกระเนื้อ อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดกระเนื้อมากขึ้น บุคคลที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นกระเนื้อมักจะมีการเกิดกระเนื้อสูงกว่าคนทั่วไป

การรักษา : กระเนื้อไม่จำเป็นต้องรักษา เพราะไม่เกิดอันตรายใดๆ แต่อาจส่งผลด้านความงาม สามารถทำการกำจัดได้โดยการจี้ด้วยไฟฟ้า การจี้ด้วยสารเคมี การรักษาด้วยเลเซอร์ เป็นต้น

 

ความผิดปกติของผิวหนังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยภายในหรือภายนอก บางปัญหาไม่ส่งผลเสียหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่อาจทำให้บุคคลนั้นเสียความมั่นใจ  จึงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหากมีความต้องการที่จะกำจัดออก ดังนั้นการทำความเข้าใจและหาแนวทางรักษาอย่างถูกวิธีจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

Leave a Reply