เวชสำอางต่างจากเครื่องสำอางอย่างไร

ในยุคที่ค้นหาทุกอย่างได้ง่ายผ่านมือถือแค่เครื่องเดียว การศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หลายคนมักจะหาอ่านรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ ใครว่าอันไหนดีก็ตามไปซื้อจนบางครั้งลืมนึกไปว่า สภาพผิวหน้าแต่ละคนต่างกัน สำหรับคนที่ผิวระคายเคืองง่าย ผิวเป็นสิวง่าย มักจะพิถีพิถันในการเลือกใช้มากกว่าคนทั่วไป ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่เวชสำอาง ลองมาดูว่าเวชสำอางมีความแตกต่างจากครีมบำรุงทั่วไปอย่างไร

เวชสำอาง VS เครื่องสำอาง

เวชสำอาง มาจากคำว่า (Cosmeceutical products)  เป็นคำที่ไม่มีนิยามตามกฎหมาย หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติระหว่างยาและเครื่องสำอาง ออกฤทธิ์หรือมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเซลล์ผิวหนัง เวชสำอางจะไม่เน้นเรื่องของการเสริมความงาม แต่จะเน้นประสิทธิภาพ โดยสารออกฤทธิ์ผสมอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะในการกระตุ้นผิวให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ตัวอย่างเวชสำอางที่พบได้บ่อย เช่น ผลิตภัณฑ์กันแดด ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย สารที่ถือเป็นเวชสำอาง ได้แก่ วิตามิน, Antioxidant, Growth Factors และสารสกัดจากพืชบางชนิด

ในขณะที่เครื่องสำอาง (Cosmetics) หมายถึง สิ่งปรุง หรือเครื่องหอมต่างๆ ที่นำมาใช้บนผิวหนัง เพื่อทำความสะอาด หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงาม โดยคุณสมบัติของเครื่องสำอางนั้น ไม่สามารถรักษาบำบัด  หรือมีฤทธิ์ในการรักษา และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ผิวหนังได้ แต่ก็มีเครื่องสำอางบางยี่ห้อที่พยายามเลียนแบบให้มีคุณสมบัติที่ใช้แล้วเห็นผลเหมือนเวชสำอางหรือโฆษณาเกินจริง มีการใส่สารอันตราย เช่น ปรอท สเตียรอยด์ หลายคนกลับเชื่อ เพราะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่รู้ว่าส่งผลต่อผิวในระยะยาว

การทำงานของเวชสำอาง กับ เครื่องสำอาง

• ประเภทให้ความชุ่มชื่น
• เครื่องสำอาง : ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวได้ชั่วคราว เพียงแค่เคลือบชั้นบนของผิวเท่านั้น จึงกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ได้ไม่นาน และไม่มีผลในการปรับโครงสร้างผิว
• เวชสำอาง : มีส่วนผสมที่ช่วยปรับโครงสร้างเซลล์ผิวให้สามารถกักเก็บน้ำหล่อเลี้ยงผิวได้ดียิ่งขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นขึ้น เมื่อเลิกใช้แล้วยังคงสภาพให้ผิวทำงานได้ไปจนกว่าเซลล์จะเสื่อมไปตามธรรมชาติ
• ประเภทกันแดด
• เครื่องสำอาง : เนื้อครีมจะเคลือบผิวชั้นนอก ให้การปกปิดที่ดูนวลเนียน แต่ไม่มีสารป้องกันรังสียูวีผสมอยู่ ไม่มีค่า SPF จึงมีประสิทธิภาพไม่เหมือนกับการทาครีมกันแดดโดยตรง ที่ช่วยในเรื่องของการปกป้องและบำรุงผิวไปในตัว
• เวชสำอาง : ผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบมาสำหรับปกป้องผิวจากรังสีที่อยู่ในแสงแดด ช่วยลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
• ประเภทต่อต้านริ้วรอย
• เครื่องสำอาง : ครีมประเภทนี้ทำหน้าที่เหมือนมอยเจอร์ไรเซอร์เท่านั้น เพียงแค่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว แต่ไม่มีผลในการปรับโครงสร้างผิว เมื่อน้ำในผิวระเหยออกไปหมด ผิวก็กลับมาแห้ง ขาดความชุ่มชื่นเหมือนเดิม ง่ายต่อการเกิดริ้วรอย และในระยะยาวริ้วรอยจะยิ่งลึกและมีจำนวนมากขึ้น
• เวชสำอาง : ออกฤทธิ์ได้ตรงจุด ช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิวให้ดีขึ้น ผิวจึงมีความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื่นได้ยาวยาน

เวชสำอางดีอย่างไร

ผลิตภัณฑ์จากเวชสำอาง มักอยู่ในรูปแบบครีมบำรุงผิว แต่ใช้ได้ผลดีกว่าครีมทั่วไป ส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง แก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด หรือป้องกันการเกิดปัญหาผิวได้ดีกว่าการใช้เครื่องสำอางที่เมื่อหยุดใช้อาการก็จะกลับมาเป็นได้อีก เวชสำอางมีหลายกลุ่มให้เลือกใช้ เช่น รักษาสิว รักษาฝ้า ผิวหมองคล้ำ ผิวขาดความชุ่มชื่น ปัญหาริ้วรอย ผื่นแพ้ตามร่างกาย ฯ

วิธีเลือกซื้อเวชสำอางให้เหมาะกับตัวเอง

• เลือกเครื่องสำอางหรือเวชสำอางที่มีความปลอดภัยและได้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
• ทดสอบการแพ้ทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ แม้จะไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายก็ตาม เพราะพื้นฐานผิวแต่ละคนต่างกัน
• เลือกซื้อจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ

เวชสำอาง เป็นคำตอบที่น่าจะตรงกับความต้องการของผู้ที่เคยใช้เครื่องสำอางในการดูแลผิวหน้าแต่ไม่ได้ผล ด้วยประสิทธิภาพที่ดีกว่า จึงมีราคาที่สูงกว่าครีมทั่วไป แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่าเพราะช่วยบำรุงและรักษาผิว แม้จะหยุดใช้ก็ตาม