เลเซอร์หน้าใส วัยไหนควรทำ

บางครั้งไม่จำเป็นต้องสวยเลิศอย่างดารา แต่ขอแค่ให้มีผิวพรรณที่ดูดีสดใส มั่นใจกับการออกไปเจอผู้คนได้แม้ไม่แต่งหน้า เป็นสุดยอดความปรารถนาของผู้หญิงแทบทุกคน การที่ต้องแต่งหน้าจัดเต็มเพื่อปกปิดร่องรอยต่างๆบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็น รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ ไหนจะต้องล้างหน้าให้สะอาดหมดจดอีกทำเอาเหนื่อยพอสมควร ยิ่งต้องเผชิญกับมลภาวะที่ยากจะเลี่ยงแล้วนั้นกลายเป็นปัญหาหนักขึ้นไปอีก แต่ไม่ต้องกังวลไป สำหรับวงการเสริมความงามมีหรือที่จะทำไม่ได้ ตัวช่วยที่ดีในเรื่องนี้ต้องยกให้การทำเลเซอร์ อยากหน้าใสต้องทำอย่างไร และใครกันที่ควรลอง

เลเซอร์ (Laser) สำหรับผิวหน้า คืออะไร

เป็นพลังงานชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ในรูปคลื่นแสงที่มีความเข้มข้นสูง การรักษาด้วยเลเซอร์หมายถึง การใช้พลังงานที่มีความเข้มข้นสูงยิงไปที่เป้าหมาย นั่นคือผิวหนัง เป็นกระบวนการรักษาผิวหนังที่ช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ครอบคลุมปัญหาผิวพรรณ เช่น ระดับสีผิวไม่สม่ำเสมอ จุดด่างดำ กระแดด หรือกระในผู้สูงอายุ ริ้วรอยย่นรอบดวงตา หลุมสิว รอยแผลเป็นจากสิว

หลักการทำงานคือ ความร้อนจากเลเซอร์ที่ยิงเข้าไปในเซลล์ จะทำให้เซลล์นั้นๆสลายตัว ข้อดีคือมีความสามารถในการทำลายที่เฉพาะเจาะจง โดยความร้อนไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น การกรอผิวด้วยเลเซอร์ โดยการยิงเลเซอร์ไปตรงบริเวณที่มีปัญหา ทำให้ชั้นหนังกำพร้ามีการลอกตัวออก ทั้งความร้อนจากเลเซอร์ทำให้คอลลาเจนเกิดการหดตัว ผิวบริเวณนั้นจึงดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งมีเลเซอร์หลายชนิดสำหรับการรักษาปัญหาผิวหน้าเกือบทุกรูปแบบ แต่ละชนิดมีสีและความยาวคลื่นที่ต่างกัน

การทำเลเซอร์หน้าใส มีอะไรบ้าง

  • IPL (Intense Pulsed Light)

หลายคนน่าจะคุ้นกับคำว่าเลเซอร์หน้าใส IPL แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้ว IPL ไม่ใช่เลเซอร์ เพราะหลักการทำงานของคลื่นแสงทั้งสองต่างกัน IPL คือ แสงที่มีช่วงคลื่นแสงกว้างที่ถูกปล่อยออกมาหลายๆช่วงพร้อมกันคล้ายแสงแฟลช ในขณะที่เลเซอร์เป็นแสงที่มีคลื่นความความถี่เดียว จึงใช้รักษาปัญหาของผิวครอบคลุมได้หลายอย่างในการทำครั้งเดียว

เหมาะสำหรับปรับสภาพผิวให้ใสเรียบเนียน รักษารอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดงต่าง ๆ ที่ต้องใช้ความยาวคลื่นไม่เท่ากัน และมีความเข้มข้นแสงน้อยกว่าเลเซอร์ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ทำให้ผิวหนังเกิดอาการบาดเจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น

  • Dual Yellow Laser

ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมเลเซอร์หน้าใส ไร้สิวที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุด มีแหล่งกำเนิดพลังงานเลเซอร์ คือ Copper และ Bromide ทำให้แสงเลเซอร์ออกมา 2 ชนิด

  • ชนิดแรกเป็นเลเซอร์สีเหลืองความยาวคลื่น 578 nm ทำให้รอยแดงจางลง โดยไม่ทำให้ผิวด้านบนเสียหาย
  • ชนิดที่สองเป็นเลเซอร์สีเขียวความยาวคลื่น 511 ซึ่งมีผลต่อเม็ดสีของผิวหนัง (Melanin) ด้านบน แต่ไม่ทำให้ผิวด้านล่างเสียหาย ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ไม่เกิดรอยจ้ำเลือด แก้ปัญหาได้ดีกว่า IPL เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

เหมาะสำหรับปัญหารอยแดงจากสิว เส้นเลือดฝอยที่เห็นชัด ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ ปานแดง ปานดำ ติ่งเนื้อ ไฝ และรักษาสิวอักเสบให้ดีขึ้น ทำให้ต่อมไขมันในชั้นผิวหดเล็กลง ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้

  • Q Switch Nd Yag

เป็นเลเซอร์ในกลุ่มที่ใช้รักษาความผิดปกติของเม็ดสี โดยจะปล่อยคลื่นความถี่ไปทำลายเม็ดสีเมลานิน แสงเลเซอร์จะยิงออกมาในช่วงเวลาสั้นๆ และให้กำลังแสงสูง เซลล์สีถูกทำลายและสลายไปตามกระบวนการธรรมชาติโดยเนื้อเยื่อรอบข้างไม่ถูกทำลายไปด้วย ให้ลำแสงออกมา 2 ชนิด

  • ชนิดแรกทำลายเม็ดสีในชั้นหนังกำพร้า เช่น ฝ้า กระ ปานแดง
  • ชนิดที่สองทำลายเม็ดสีในชั้นหนังแท้ เช่น กระลึก รอยแผลเป็น รอยสัก

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากระแดด กระลึก ปานดำ รอยสิว รอยคล้ำบริเวณริมฝีปาก รอยสักคิ้ว รอยสักต่างๆ และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียนอีกด้วย

  • Fractional Laser

เป็นการรักษาผิวด้วยเลเซอร์ที่ช่วยให้ดูอ่อนวัย ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า fractional photothermolysis รักษาผิวทีละส่วนโดยไม่มีการรบกวนเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ สามารถแทรกลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ลำแสงเลเซอร์จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ที่อ่อนเยาว์ เรียบเนียนและแข็งแรงกว่าเดิม ทดแทนผิวเก่าที่เสียไป

เหมาะสำหรับรักษารอยแผลจากสิว ริ้วรอยรอบดวงตา จุดด่างดำ ฝ้า กระ

วัยไหนเหมาะสำหรับการทำเลเซอร์

ถ้าถามว่าเลเซอร์หน้าใสเหมาะสำหรับใคร คำตอบอาจจะระบุยากไปสักนิด ไม่ว่าใครก็อยากมีผิวหน้าที่ดูใสกันทั้งนั้น จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับว่าผิวหน้าของใคร ต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง เช่น

  • วัยรุ่น ปัญหาหลักๆที่เป็นกันแทบทุกคนคือสิว และรอยสิวไม่ว่าจะเป็นรอยแดงหรือรอยดำที่ทิ้งไว้บนใบหน้าจนเสียความมั่นใจ
  • วัยผู้ใหญ่ ใครที่เป็นสิวในช่วงนี้อาจต้องกลุ้มใจสักหน่อย เพราะรอยแผลเป็นที่ทิ้งไว้ใช้เวลาในการรักษาที่ค่อนข้างนานกว่าตอนเป็นวัยรุ่น ปัญหาหลุมสิวเห็นได้อย่างชัดเจนและไม่มีทีท่าว่าจะหายไปเอง แค่นี้ยังไม่พอ ไหนจะปัญหากระ ฝ้าแดด สีผิวไม่สม่ำเสมอที่คอยกวนใจอีก

ทางเลือกในการรักษาผิวหน้าสำหรับปัญหาที่ยากจะแก้ไข ไม่ว่าจะทาครีมบำรุงอย่างไรก็เอาไม่อยู่ เห็นทีคงต้องพึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการช่วยเหลือ เลเซอร์เป็นอีกคำตอบหนึ่งที่ดีเห็นผลชัดเจน ใช้เวลาทำไม่นาน โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายมีน้อยมาก หากใครอยากลองทำควรขอคำแนะนำจากแพทย์ในการช่วยวิเคราะห์ว่าควรเลือกทำเลเซอร์ชนิดใด และศึกษาข้อมูลทั้งก่อนและหลังทำ เพื่อให้การดูแลผิวหน้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

Leave a Reply