อยากมีผิวใสสุขภาพดีดูฉ่ำน้ำ ต้องทำอย่างไร

ดูเหมือนว่าเทรนผิวเงาฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลีจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าจะแผ่วลงเลย เพราะนั่นเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงผิวที่มีสุขภาพดี และมีความอ่อนเยาว์ แต่ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นริ้วรอยเริ่มถามหา หลายคนอาจสังเกตได้ว่าความยืดหยุ่นของผิวลดลง แม้ยังไม่เห็นความหย่อนคล้อยมากนัก ใช่ว่าจะไม่มีทางออกสำหรับเรื่องนี้ มีวิธีใดบ้างที่จะช่วยรับมือกับปัญหานี้ เพื่อให้ผิวหน้าดูใสเด้งฉ่ำน้ำ

1.แนะนำให้ใช้คลีนเซอร์ที่มีส่วนประกอบของ Glycolic acid หรือ Salicylic acid

เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว พยายามเลี่ยงการขัดหน้าด้วยสครับที่มีเม็ดบีดขนาดใหญ่และคม แม้แต่สครับที่มาจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาล เกลือ เพราะไม่คุ้มกับการเกิดริ้วรอยและผิวอักเสบที่อาจจะตามมา ลองเปลี่ยนมาใช้

  • Glycolic acid เป็นกรดผลไม้ชนิดที่สังเคราะห์ได้มาจากอ้อย ช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป ผิวหนังจึงมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา ทำให้รอยสิว จุดด่างดำ ริ้วรอยจางลง นอกจากนี้กรดไกลโคลิกยังสามารถจับกับน้ำและทำให้มีปริมาณน้ำหล่อเลี้ยงในผิวหนังได้นานขึ้น
  • Salicylic acid ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งกรดซาลิไซลิกนั้นจะละลายได้ดีในน้ำมัน และผิวหน้าของเรามีน้ำมันที่รูขุมขนสร้างมาเพื่อใช้รักษาความชุ่มชื้นของผิว ทำให้กรดซาลิไซลิกสามารถเข้าไปช่วยกำจัดสิ่งอุดตันที่อยู่ในรูขุมขนได้เป็นอย่างดี จึงช่วยลดปัญหาสิวอุดตันได้

2.เพิ่มความชุ่มชื่นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์

อีกหนึ่งตัวช่วยเด็ดที่ทำให้ผิวนุ่ม ฉ่ำเด้ง หน้าเด็ก ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเคลือบผิว เพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิว และช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื่นได้ยาวนานยิ่งขึ้น เพราะเมื่อมีการสูญเสียน้ำของผิวที่น้อยลง ผิวก็จะมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้ผิวดูแข็งแรง เต่งตึง ดูสุขภาพดี มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดีจึงควรมีคุณสมบัติ ดูดซึมได้ดี ออกฤทธิ์รวดเร็ว และอยู่บนผิวหนังได้นานโดยไม่ต้องทาซ้ำหลายรอบ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบเนื้อครีม เนื้อเจล เนื้อโลชั่น การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่เว้นแม้แต่สาวผิวมัน

3.ดื่มน้ำให้มากๆ

ในแต่ละวันควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว โดยให้ดื่มเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำสะอาด เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนื่องจากน้ำเป็นส่วนประกอบของเซลล์ เซลล์ที่อิ่มไปด้วยน้ำจะมีความแข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและเต่งตึงขึ้นได้ อีกทั้งน้ำยังช่วยกำจัดของเสียออกทางเหงื่อและปัสสาวะ และน้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดที่ร่างกายต้องการนำกลับมาชดเชยหลังจากออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่างๆอีกด้วย

4.ทรีทเม้นท์ที่ช่วยให้ผิวใสมีสุขภาพดี

การปรึกษาคลินิกเสริมความงามก็เป็นอีกวิธีที่เห็นผลเร็ว แก้ไขได้อย่างตรงจุด มีหลายเทคนิคที่ช่วยให้ผิวหน้าดูอิ่มน้ำได้

  • การเติม Hyaluronic Acid

กรดไฮยาลูรอนิกซึ่งมีหน้าที่ในการอุ้มน้ำ  รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง โดยทำการฉีดเข้าไปที่ผิวชั้นตื้นๆ ช่วยให้ใบหน้าดูใสเนียน มีน้ำหล่อเลี้ยงผิวมากขึ้น ข้อดีคือเห็นผลทันทีส่วนผิวฉ่ำน้ำมักเห็นผลภายใน 2-3 วัน และเห็นชัดเจนขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ผิวบอบช้ำน้อยมาก เนื่องจากเข็มมีขนาดเล็กมาก ให้ผลนานถึง 12 เดือน การเติมเต็มที่เหมาะสมช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งใน 5 จุดสำคัญคือ กึ่งกลางหน้าผาก, โหนกแก้มทั้งสองข้าง, ปลายจมูก และปลายคาง ตลอดจนสร้างมิติที่เหมาะสมให้กับใบหน้า

  • Made Collagen

เป็นการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด โดยการฉีดตัวยาลงบนใบหน้าตามตำแหน่งการฝังเข็มทั้ง 16 จุด ที่ปรนนิบัติฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรงขึ้น กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ผิวจึงดูเต่งตึง หน้าดูอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง ด้วยกลไกการทำงาน 4 ขั้นตอน คือ Detoxification ขับสารพิษ,  Metabolism เร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงาน, Nutrients and Cell therapy เซลล์บำบัด และ Restructuring ปรับความสมดุลให้ร่างกาย

มีหลายวิธีในการดูแลผิวให้สุขภาพดี สำหรับใครที่ผิวมีปัญหาไม่มาก อายุยังน้อยอยู่อาจดูแลตัวเองจากการทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่กับการใช้ครีมบำรุง สำหรับสาวๆที่วัย 30 ปีเป็นต้นไป การเข้ารับบริการจากคลินิกเสริมความงามเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ และให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าแก่การลอง

Leave a Reply