สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ในแต่ละวัย

จากจุดเริ่มต้นในการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์มากที่โบท็อกซ์ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของแวดวงความงาม ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดตัวช่วยที่ดีในการลดเลือนริ้วรอย แม้ในช่วงแรกยังมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่กล้าเปิดใจยอมรับ  แต่ด้วยผลลัพธ์อันน่าทึ่งจึงทำให้การฉีดโบท็อกซ์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการใช้อย่างแพร่หลายมานานเกือบยี่สิบปี และดูเหมือนว่าช่วงอายุที่เข้ารับการรักษาไม่จำกัดอยู่ที่สาววัยกลางคนอีกต่อไป แต่ไม่ว่าจะอยู่ในวัย 20, 30 หรือ 40 ก็ตาม นี่คือสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์

 ทำความรู้จักกับ Botox กันสักนิด

  • Botox คืออะไร

Botox คือ สารโบทูลินั่มทอกซินชนิด เอ (Botulinum toxin type A) ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการรักษาปัญหาความงามได้หลากหลาย เช่น ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และลดการขับเหงื่อที่มากเกินไป สารชนิดนี้ทำงานโดยการปิดกั้นสัญญาณระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ได้รับการฉีดคลายตัวลงกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังเกิดอาการเป็นอัมพาตชั่วคราว ริ้วรอยต่างๆ จะค่อยๆเนียนเรียบขึ้น

  • ฉีด Botox เจ็บไหม

เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาแบบฉีดยา อาจรู้สึกเหมือนถูกหยิกเล็กน้อยเมื่อเข็มถูกสอดเข้าไปในผิวหนัง การทายาชาเฉพาะที่ก่อนฉีดสามารถช่วยลดอาการเจ็บได้  แต่สำหรับบางคนที่มีความรู้สึกไวกว่าอาจจะรู้สึกเจ็บมากกว่าคนทั่วไป หลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้ว โบท็อกซ์ก็จะเริ่มทำงานทันที เห็นผลอย่างชัดเจนภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

  • Botox มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

อาจมีอาการบวมแดงหรือรอยช้ำตรงที่ฉีด ซึ่งก็จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น อาการบวมมักจะหายภายใน 1-2 วัน แต่รอยช้ำอาจใช้เวลานานกว่าสองสัปดาห์ หากพบอาการผิดปกติอย่างอื่นเกี่ยวกับ การกลืนอาหาร การหายใจ หรือการพูด ควรรีบมาพบแพทย์โดยเร็ว

  • การฉีด Botox เหมาะสำหรับใคร

เน้นแก้ไขปัญหาริ้วรอย แต่ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ เพราะยังมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เกิดริ้วรอย เช่นแสงแดด การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหาร หากต้องจัดการริ้วรอยบริเวณหน้าผาก คิ้ว และรอบดวงตา โบท็อกซ์อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ต้องผ่านการปรึกษากับแพทย์ก่อนตัดสินใจ

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ในแต่ละช่วงอายุ

  • ช่วงอายุ 20

ผู้หญิงหลายคนไม่ได้มีริ้วรอยเกิดขึ้นในช่วงอายุนี้ คนส่วนใหญ่ในวัยยี่สิบตัดสินใจที่จะลอง Botox เพียงเพราะต้องการปรับแต่งรูปลักษณ์ ให้โครงหน้าได้รูปแบบ V-shape  และต้องการที่จะให้ผิวดูสดใสและอ่อนเยาว์ แนะนำให้ฉีดในช่วง 20 กลางถึงปลาย แต่หากคาดหวังในเรื่องการปกป้องริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้น การทาครีมกันแดดถือเป็นสิ่งจำเป็นกว่า รวมถึงการฝึกกล้ามเนื้อต่างๆ ด้วยการออกกำลังกายใบหน้า หากเริ่มฉีดโบท็อกซ์ในช่วงอายุที่น้อยเกินไป ซึ่งยังเป็นวัยที่ยังเสริมสร้างคอลลาเจนได้อยู่ ผิวจะสูญเสียความยืดหยุ่น และทำให้กล้ามเนื้อหดตัวจนไม่สามารถสร้างกล้ามเนื้อขึ้นใหม่ได้ จะทำให้เกิดรอยย่นที่ถาวรมากขึ้น

  • ช่วงอายุ 30

เป็นช่วงเวลาที่ผิวมักจะได้รับความเสียหายจากแสงแดดเป็นเวลานาน หรือไม่ได้รับการดูแลปกป้องอย่างเต็มที่ เริ่มปรากฏริ้วรอยบางๆ ระหว่างคิ้วและรอบดวงตา การฉีดโบท็อกซ์ช่วยแก้ไขในเรื่องนี้ได้ อาจจะต้องทำการฉีดทุกๆ 3-4  เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับวัยนี้

  • ช่วงอายุ 40

ผิวที่บางลง ริ้วรอยเห็นได้ชัด และลึกขึ้น สร้างความกังวลให้หลายคนเป็นอย่างมาก ในวัยนี้โบท็อกซ์สามารถช่วยได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ได้ทำให้ผิวกลับมาสมบูรณ์แบบดังเดิม ส่วนเปลือกตาที่ดูตกลง รวมถึงใบหน้าที่หย่อนคล้อย คงยากที่จะรักษาได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์เพียงอย่างเดียว บางคนอาจฉีดเพียงไม่กี่ครั้งก็เห็นผล แต่สำหรับบางคนอาจต้องทำการรักษาที่มากขึ้นกว่าเดิม เช่น การรักษาด้วยเลเซอร์ การใช้คลื่นความถี่สูงควบคู่กันไป

การจัดการกับริ้วรอยบนใบหน้าอาจไม่จำเป็นเสมอไป เพราะเป็นกลไกตามธรรมชาติที่ผิวหนังย่อมมีความเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ถือเป็นความต้องการส่วนบุคคล ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกใช้เทคนิคใดต้องได้รับการดูแลจากคลินิกเสริมความงาม หรือโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการฉีดสารเข้าสู่ผิวหนังที่ต้องอาศัยทักษะของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Leave a Reply