สกินแคร์กลุ่ม Whitening ตัวช่วยที่ดีสำหรับสาวๆที่ต้องเผชิญกับปัญหาผิวคล้ำเสีย

มลภาวะที่ต้องเผชิญกันอยู่ทุกวันนี้ ดูเหมือนว่านับวันยิ่งทวีคูณความรุนแรงมากขึ้น และสิ่งที่ตามมาคงหนีไม่พ้นปัญหาผิวคล้ำเสีย สีผิวไม่สม่ำเสมอ แลดูหยาบกร้าน แม้จะมีการปกป้องอย่างเต็มที่ แต่ผิวก็ยังคงต้องการการบำรุงเช่นกัน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าในกลุ่ม Whitening จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากที่สุด มาดูกันว่าสกินแคร์กลุ่มนี้แตกต่างจากกลุ่มอื่น และมีวิธีการเลือกใช้อย่างไร

สาเหตุของปัญหาผิวคล้ำเสีย

  • แสงแดดอ่อนๆยามเช้ายังคงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ผิวหนังสร้างวิตามินดี แต่การที่ผิวต้องเจอกับแสงแดดจ้าในช่วงเวลาไม่นาน กลับกลายเป็นการทำร้ายผิวโดยตรง ไม่เพียงแต่ใบหน้าดูหมองคล้ำ เสี่ยงต่อการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และผิวหยาบกร้าน แต่รังสียูวีที่อยู่ในแสงแดดสามารถทำลายได้ลึกถึงชั้นผิวหนังที่มีการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน สาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอย ไปจนถึงความหย่อนคล้อย
  • สภาพอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษ เช่น ฝุ่นละออง ควันรถยนต์ อากาศที่เย็นจะดึงความชุ่มชื่นออกไปจากผิว ทำให้ผิวแห้ง เป็นขุย แม้แต่การอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำเสียมากยิ่งขึ้นได้เช่นกัน
  • การสูบบุหรี่ ควันบุหรี่ทำลายออกซิเจนในผิว ทำให้หน้าหมองคล้ำ แห้งกร้าน ดูแก่กว่าวัย และมีผิวมันมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ นอกจากนี้นิโคตินในบุหรี่ยังทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี และทำให้ประสิทธิภาพของหลอดเลือดในการดูดซับวิตามินเอลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวแห้งและหยาบกร้าน
  • ดื่มน้ำไม่เพียงพอ หากร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำนอกจากเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อผิวพรรณ จนทำให้ผิวขาดน้ำได้ เช่น ขาดความชุ่มชื่น หมองคล้ำ ไม่สดใส ไร้ชีวิตชีวา

มีอะไรซ่อนอยู่ใน สกินแคร์กลุ่ม Whitening

เมื่อพูดถึงคำว่า Whitening หลายคนมักจะเข้าใจว่าใช้แล้วต้องหน้าขาวขึ้นจนต้องตกตะลึง ในความเป็นจริงทำได้แค่ให้ผิวหน้าดูสว่างกระจ่างใสขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพสีผิวเดิมของแต่ละคน แต่สำหรับคนที่ดูแลตัวเองดีมากๆ มีการดูแลผิวด้วยวิธีอื่นควบคู่กันไปนอกจากทาครีมบำรุง ก็จะทำให้ผิวขาวขึ้นได้ระดับนึง

โดยกลไกการทำให้ผิวขาว คือ การไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว หรืออีกชื่อคือเมลานิน ให้น้อยลงกว่าปกติ โดยสาร Whitening ที่สามารถลดการสร้างเมลานิน มีมากมายหลายชนิด สามารถเลือกใช้ได้โดยดูจากประสิทธิภาพและความเข้ากันได้กับผิว คือ ใช้แล้วได้ผลดี และไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง สารที่นิยมใช้ในสกินแคร์กลุ่มนี้ คือ

  • Vitamin C (วิตามินซี) มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ให้ผิวมีความเปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
  • Licorice (ลิโคริซ) สารสกัดจากรากต้นชะเอมเทศ มีสารสำคัญคือ Glycyrrhetic acid และ Flavonoids ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ช่วยกระจายเม็ดสีเมลานิน  ทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ รอยดำจากสิว ลดฝ้ากระ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติลดอาการระคายเคือง ลดการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ
  • Arbutin (อาร์บูติน) ช่วยในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งส่งผลให้เซลล์ผิวมีการสร้างเม็ดสีเมลานินลดลง
  • Kojic Acid (กรดโคจิก) ป้องกันอนุมูลอิสระและยับยั้งการสร้างเม็ดสี ลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ อันเนื่องมาจากแสงแดด
  • Lactic acid ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกแบบอ่อนโยนพร้อมให้ความชุ่มชื่น ทำให้ผิวไม่แห้งกร้านส่งผลให้ผิวขาวกระจ่างใส
  • Retinol อนุพันธ์ของวิตามินเอ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ริ้วรอย และจุดด่างดำแลดูจางลง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้กับผิวหนัง
  • Vitamin B3 (วิตามินบี 3) ช่วยลดจุดด่างดำ รวมถึงกระตุ้นให้ผิวสร้าง Hyaluronic Acid ได้ตามธรรมชาติ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น และช่วยลดริ้วรอยได้

ครีมบำรุงผิวที่ช่วยแก้ปัญหาความหมองคล้ำ ถือเป็นตัวช่วยที่ดีที่สาวๆควรมีไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง แค่เลือกให้เข้ากับสภาพผิวและอย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดเป็นประจำ รวมถึงหลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆที่สร้างความเสียหายให้ผิว เท่านี้ผิวหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยากอีกต่อไป

Leave a Reply