ผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหน้าเหมาะสำหรับใคร ทำแล้วเห็นผลอย่างไร

บางครั้งการดูแลผิวหน้าโดยการทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอทำไมถึงไม่เห็นผล มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือ สารอาหารที่พยายามป้อนเข้าสู่ผิวกลับเคลือบอยู่แค่บนผิวชั้นนอกเท่านั้น ไม่เพียงแต่ไม่เห็นผลแต่ยังเป็นการสิ้นเปลืองอย่างน่าเสียดายอีกด้วย จึงได้มีการคิดค้นนำเอาเครื่องมือในการผลักสารหรือวิตามินเข้าสู่ผิว ทำแล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไร และใครกันที่ควรทำ

การผลักวิตามินคือ

การใช้เครื่องมือสำหรับผลักวิตามินและอาหารผิวลงสู่ผิวหนังในชั้นลึกด้วยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ อาศัยหลักการ Electroporation ทำให้เกิดช่องว่างเล็กๆที่ผนังเซลล์ ซึ่งช่วยในการผลักดันให้โมเลกุลของสารอาหาร วิตามิน หรือยาเข้าสู่ภายในเซลล์ผ่านทางช่องเปิดนี้ได้ จากนั้นผนังเซลล์จะกลับคืนสู่สภาพปกติ เทคนิคนี้ทำให้สารซึมเข้าผิวได้ดีและเห็นผลเร็วกว่าการทาแบบทั่วไป ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เซลล์ผิวจึงได้สารอาหารมาเลี้ยงมากขึ้น และเพิ่มการขับของเสียออกจากเซลล์ทางระบบน้ำเหลือง โดยไม่มีรอยแผลหรือความเจ็บปวด ไม่ต้องพักฟื้น เพราะเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เข็ม อาจรู้สึกยิบๆเล็กน้อยบนใบหน้า มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูง

มีชื่อเรียกต่างกันตามเครื่องมือที่ใช้ เช่น Ionto, Infusion, Ultraphono (ใช้คลื่นอัลตราโซนิกหรือคลื่นเสียง) หรือเทคโนโลยีหัวกลิ้งแบบ Trans Q ในการทำแต่ละครั้งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ตรวจสภาพผิวหน้าอย่างละเอียดก่อนทำ หากพบว่ามีสิวอักเสบเกิดขึ้นต้องรักษาสิวให้หายเป็นปกติเสียก่อน เห็นผลการรักษาชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และสามารถใช้ร่วมกับการรักษาวิธีอื่นๆได้ เช่น การกรอผิว ทำเลเซอร์ หรือ IPL

 

วิตามินหรือสารที่นิยมใช้

  • วิตามินเอ : เสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิวหนัง เหมาะสำหรับใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิวที่กระจายอยู่ตามใบหน้า ทำให้ตื้นและเนียนเรียบขึ้น และปัญหาสิวอุดตัน ผิวหน้ามัน
  • วิตามินซี : สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในเรื่องผิวหน้ามีจุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น ช่วยในการบำรุงเซลล์ต่างๆ ทำให้ผิวหน้ามีชีวิตชีวา ตึงกระชับ และกระจ่างใสขึ้น
  • Hyaluronic : เรียกสั้นๆว่า HA เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย และสามารถสร้างขึ้นได้เอง เพิ่มความยืดหยุ่นความชุ่มชื่นให้แก่เซลล์ผิวหนัง มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีมาก ผิวหน้าก็จะดูอ่อนเยาว์  เรียบเนียน  ริ้วรอยลดลง  รู้สึกว่าผิวมีความยืดหยุ่นนุ่มนวล  เหมาะสำหรับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ
  • Arbutin : มีประสิทธิภาพในเรื่องการทำให้ผิวขาวใส ยับยั้งการผลิตเม็ดสีหรือที่เราได้ยินคุ้นหูกันว่า Melanin ในระดับเซลล์ ไม่ทำให้ผิวบาง เห็นผลชัดเจนในระยะเวลาไม่นาน เหมาะสำหรับผิวหมองคล้ำ
  • Collagen : เด่นในด้านบำรุงและชะลอการเสื่อมตัวของผิวหนัง ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวหนัง ลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและรอยแผลเป็นบางชนิด
  • Pitera : กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ ผิวจึงแข็งแรงและดูแน่นขึ้น ช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวทำงานอย่างเป็นปกติ โดดเด่นเรื่องความอ่อนเยาว์ เพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ลดการอักเสบ แก้ปัญหาฝ้า กระ รูขุมขนกระชับ ทำให้หน้ากระจ่างใส
  • Azelaic acid : มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว ลดการอักเสบของผิวหนัง ช่วยปรับสีผิวให้ใสขึ้น ใช้รักษาฝ้า ลดรอยดำจากสิว

 

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแบบไหน

ใช้แก้ปัญหาได้หลากหลาย เช่น ฝ้า กระ รอยแดงและรอยดำจากสิว ผื่นแพ้ระคายเคือง  กระชับรูขุมขน หรือผู้ที่อยากมีผิวใสอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ทำให้ผิวบางและไม่เป็นอันตราย ที่ต้องการบำรุงผิวมากกว่าใช้ครีมทาแค่เพียงภายนอกอย่างเดียว  เปลี่ยนหน้าโทรมให้เป็นหน้าใส เปล่งปลั่งมีออร่า ผิวชุ่มชื่นไม่แห้งกร้าน เนียนนุ่มน่าสัมผัส

การผลักวิตามินเข้าสู่ผิว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำได้ง่ายๆแบบไม่ต้องเจ็บตัว สามารถทำได้กับทุกสภาพผิว ซึ่งผลลัพธ์แตกต่างกันไปในแต่ละคน แม้แต่ผู้ที่ไม่มีปัญหาผิวแต่อยากดูแลเพิ่มเติมก็ทำได้เช่นกัน เป็นเทคนิคที่แทบจะไม่มีความเสี่ยงหรือก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง อย่างไรนั้นการเลือกใช้บริการกับคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานยังเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผิวหน้าได้รับการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพตามที่คาดหวังไว้

Leave a Reply