ปัญหารอยดำรอยแดงจากสิว รักษาให้หายด้วยวิธีใดได้บ้าง

เบื่อไหมกับการที่สิวหายแล้วทิ้งร่องรอยไว้ให้ดูต่างหน้า หนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่หายช้าต้องสู้รบกันตั้งแต่สมัยวัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรอยแดงหรือรอยดำ กว่าจะออกจากบ้านแต่ละทีต้องลงทั้งรองพื้นแถมโบกคอนซิลเลอร์กลบกันจนเหนื่อย บางครั้งก็อยากจะเปลือยผิวหน้าออกจากบ้านบ้าง พอมีคนทักความมั่นใจถดถอยกลายเป็นนอยด์ไปอีกหลายวัน แล้วอย่างนี้พอจะมีวิธีใดบ้างในการรักษารอยสิวให้หายไปจากหน้า

รอยสิว รอยดำ รอยแดง เกิดขึ้นได้อย่างไร

รอยสิว คือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว เมื่อเป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตัน พอสิวหายจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ ซึ่งรอยแดงและรอยดำจากสิวเป็นอาการหลังจากมีการอักเสบของสิวเกิดขึ้นจากการรักษาตัวของเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย ซึ่งเนื้อเยื่อเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ผิวหนังบริเวณนั้นมักจะมีสีที่เปลี่ยนแปลงไป ช่วงแรกอาจเป็นรอยแดง ต่อมาสีอาจจะเข้มขึ้นเห็นเป็นสีน้ำตาลจนถึงเกือบดำ สังเกตได้ว่าแต่ละรอยนั้นมีสีคล้ำที่ไม่เสมอกัน ปัจจัยที่ทำให้รอยแผลเหล่านี้เปลี่ยนเป็นสีคล้ำนั่นก็คือ แสงแดด  นอกจากนี้การบีบหรือกดสิวที่ไม่ถูกวิธี สามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดรอยสิวได้เช่นกันโดยทั่วไปรอยแดงรอยดำสามารถหายเองได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หรืออาจใช้ระยะเวลานานหลายเดือน ยิ่งอายุมากก็ยิ่งจางหายได้ช้ามากขึ้น

วิธีลดรอยสิวให้หน้ากลับมาใส

  • ครีมลดรอยดำ

เป็นวิธีที่นิยมทำค่อนข้างมาก เนื่องจากหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป ใช้สะดวก ราคาไม่แพง คุณสมบัติคือ ช่วยลดการอักเสบสมานแผล ช่วยให้รอยแดงรอยดำจากสิวดูจางลง ส่วนผสมหลัก เช่น

  • Cortisone : เหมาะสำหรับรอยแดง ช่วยลดภาวะอักเสบของผิวหนัง ทำให้สีแดงที่ผิวหนังจางไป และทำให้สิวบริเวณนั้นยุบตัวลง
  • Vitamin C : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มักถูกใช้ร่วมกับสารอื่นเพื่อช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว และลบเลือนร่องรอยจากการเกิดสิวได้
  • Aloe vera : ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
  • Vitamin E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื่นช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดรอยสิว รอยดำ ปรับสภาพฟื้นฟูผิวหน้า ขจัดปัญหาหมองคล้ำ
  • Vitamin B3 : กระตุ้นการทำงานของเซลผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และช่วยลดริ้วรอยจุดด่างดำต่างๆได้
  • Retinol : (Vitamin A) ผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกสุดให้หลุดออก สามารถลดเลือนรอยดำได้ดี แต่อาจเกิดการระคายเคือง และแพ้ได้ง่าย
  • ผลัดเซลล์ผิว

เป็นวิธีที่แพทย์เลือกใช้ในการขจัดเม็ดสีเมลานินออกไป โดยการลอกหน้า (Chemical peel) เป็นการใช้สารเคมีเช่น การใช้กรดผลไม้ Glycolic Acid, Trichloracetic acid (TCA), AHA เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไป กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของชั้นหนังแท้ในการช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี

  • เลเซอร์

แพทย์จะใช้อุปกรณ์ยิงลำแสงเลเซอร์ไปบนผิวหนังบริเวณที่เป็นรอยสิว เพื่อกำจัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่เกิดความเสียหายหลังการเกิดสิว เป็นการกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ในผิวชั้นกลาง เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน การใช้เลเซอร์เห็นผลได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการรักษารูปแบบอื่น แต่ต้องใช้ระยะเวลาหลายวันกว่าสภาพผิวจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ผิวอาจเกิดการระคายเคืองและแสบร้อนได้ ซึ่งยังมีโอกาสทำให้ผิวเกิดการสร้างเม็ดสีที่มากขึ้น ดังนั้นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

  • เทคนิค IPL (Intense Pulse Light)

เป็นการใช้พลังงานของคลื่นแสงในการรักษาปัญหาผิว สามารถลงลึกได้ถึงชั้นผิวโดยที่ไม่เป็นการทำร้ายผิว เน้นจัดการกับรอยดำ รอยแดงจากสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว

แม้ว่ารอยแดง รอยดำจากสิวสามารถหายได้เอง แต่คงไม่มีใครทนรอแน่ๆ วิธีการรักษาที่แตกต่างกันแต่มีจุดประสงค์เดียวกันนี้ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น บางวิธีเห็นผลลัพธ์เร็วแต่อาจต้องเจอกับความเสี่ยงที่ตามมา ดังนั้นการขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นทางออกที่ดีในการหาเทคนิคที่เหมาะสมและได้ประสิทธิภาพสูงสุด

Leave a Reply